ในเดือนกรกฎคมที่ผ่านมา ราคาอาหารทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ซึ่งได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงด้านอาหารของคนจน นับล้านคนในทั่วโลก โดยเฉพาะคนจนของประเทศในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาและภูมิภาคตะวันออกกลาง นี่คือข้อสังเกตของธนาคารโลก หรือ WB ในรายงานเกี่ยวกับการตรวจสอบราคาอาหารที่ประกาศเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม โดยได้ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎคม ปี 2012 ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ราคาถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตอาหารโลกครั้งรุนแรงที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2008
บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า มีสาเหตุหลายอย่างที่ทำให้ราคาอาหารมีความผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะปริมาณอาหารลดลงเนื่องจากภัยแล้งและอากาศร้อนเป็นเวลานานในสหรัฐและภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมทั้งราคานํ้ามันก็เพิ่มมากขึ้น นาย Jim Yong Kim ประธาน WBได้เผยว่า วิกฤตอาหารได้ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงที่สุดในประเทศที่อ่อนไหวในทวีปแอฟริกาและภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าอาหารมากที่สุดในโลก รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศมีนโยบายที่ถูกต้องในการส่งเสริมโครงการบรรเทาความหิวเพื่อปกป้องคนจนจากความเสี่ยงในการผันผวนราคาอาหาร./.