(VOVworld)-ในกรอบการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ท่านเหงวียนฟู้จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกฯไทย ได้เจรจาทวิภาคีโดยได้เห็นพ้องกันในการยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เวียดนาม-ไทย ไทย-เวียดนามบน5เสาหลักคือ การเมือง การป้องกันประเทศและความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมสังคมและความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะมอบหมายหน้าที่ให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบของทั้งสองประเทศร่วมประสานงานเพื่อร่างแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้นายกฯทั้งสองท่านได้ลงนามในการประชุมครม.ร่วมที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ณ ประเทศไทย ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงโดยเฉพาะคณะผู้แทนของสองพรรครัฐบาลและสองรัฐสภา ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันร้อยละ20ต่อปีเพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายส่งเสริมการค้าให้ถึง1หมื่น5พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี2020 ผลักดันการลงนามและปฏิบัติข้อตกลงร่วมมือด้านแรงงาน กระชับความเชื่อมโยงด้านคมนาคมตามแนวเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก ซึ่งฝ่ายเวียดนามได้ให้คำมั่นในการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนามโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมผลิตประกอบ ปีโตรเคมี สำรวจและขุดเจาะปีโตรเลี่ยม
ท่านเหงวียนฟู้จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกฯไทยยังได้ย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมความสามัคคีและร่วมมือระหว่างเวียดนาม ไทยและประเทศอาเซียนเพื่อธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างความมั่นคงของภูมิภาค ร่วมสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่สามัคคีและเข้มแข็งมั่นคง มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและพัฒนาในภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความกังวลต่อความผันผวนที่ซับซ้อนในทะเลตะวันออกและปรารถนาให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทะเลปี1982 แถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี แถลงการณ์6ข้อของอาเซียน เป็นต้นเพื่อค้ำประกันสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือในทะเลตะวันออก
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการเจรจา ท่าน เหงียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์และนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับไทย ท่าน เหงียนฟู้จ๋องได้ยืนยันว่า“พวกเราให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับไทยและเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์เวียดนามและไทยมีเงื่อนไขที่สะดวกเพียงพอและจำเป็นเพื่อนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ร่วมมือและพัฒนาในภูมิภาค บนพื้นฐานนั้น ผมและนายกรัฐมนตรีไทยได้เห็นพ้องกันว่า จะสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามไทย ไทย-เวียดนาม ในกรอบความสัมพันธ์ใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยจะได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาเข้มแข็งยิ่งขึ้นในทุกด้านและมีการพัฒนาใหม่”
นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้แสดงความปรารถนาว่า เวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมตามแนวเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตกและแม่น้ำโขง นายกรัฐมนตรีไทยได้ย้ำว่า“พวกเรามีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ว่า ความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนามอยู่ในกรอบประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อร่วมกันพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น ในฐานะผู้ประสานงาน ไทยพร้อมที่จะช่วยให้จีนเข้าร่วมการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับจีนซึ่งอาจกล่าวได้ว่า นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศพัฒนาและขยายความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย”
โอกาสนี้ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้เป็นประธานงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแด่ท่าน เหงียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์และคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนาม./.