พิธีฉลองครบรอบ 20 ปีการก่อตั้งกองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนาม

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 8 เมษายน ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดพิธีฉลองครบรอบ 20 ปีการก่อตั้งกองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนาม และพิธีรับเหรียญอิสริยาภรณ์แรงงานชั้นหนึ่ง 

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี รองประธานประเทศ หวอถิแอ๊งซวน ได้กำชับให้กองทุนฯ ยืนหยัดการปฏิบัติตามแนวทางและนโยบายด้านการต่างประเทศของพรรคและรัฐอย่างต่อเนื่อง ร่วมแรงร่วมใจในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังวิกฤตโควิด-19 ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยและมั่งคั่ง

“ดิฉันมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา พร้อมความรู้และความกระตือรือร้นของบรรดาผู้นำและสมาชิก กองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนามจะสานต่อแนวทางด้านการต่างประเทศของเวียดนาม รวมถึงแนวความคิดด้านการทูตของประธานโฮจิมินห์ ยืนหยัดการปฏิบัติตามแนวทางและนโยบายด้านการต่างประเทศของพรรคและรัฐ ติดตามสถานการณ์โลก ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในทุกด้านให้ดีขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่องานด้านการทูตระดับประชาชนในสถานการณ์ใหม่ เข้าร่วมและแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและข้อพิพาทที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ในภูมิภาคและโลกด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล”

พิธีฉลองครบรอบ 20 ปีการก่อตั้งกองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนาม - ảnh 1รองประธานประเทศ หวอถิแอ๊งซวน กล่าวปราศรัยในพิธีฉลองครบรอบ 20 ปีการก่อตั้งกองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนาม (ภาพจาก An Đăng/TTXVN)

ทั้งนี้ กองทุนสันติภาพและการพัฒนาเวียดนาม ได้ก่อตั้งขึ้นตามข้อคิดริเริ่มของอดีตรองประธานประเทศเวียดนาม เหงวียนถิบิ่งห์ และกลุ่มเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการทูตระดับประชาชน โดยเป้าหมายของกองทุนฯ คือยกย่องคุณค่าต่างๆ ของสันติภาพ ประชาธิปไตย ความยุติธรรม ความเสมอภาค ความก้าวหน้า และมนุษยธรรม เพื่อประเทศเวียดนามที่เป็นอิสระ พึ่งตนเอง พัฒนาเจริญรุ่งเรืองและยั่งยืน พร้อมมีสัมพันธไมตรีและความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกันที่เอื้อประโยชน์ต่อทุกประเทศ ซึ่งกองทุนฯ ได้รับการสนับสนุนและความเห็นพ้องจากองค์กรระดับประชาชนหลายแห่งทั่วโลกในการรณรงค์และมีส่วนร่วมต่อการปกป้องผลประโยชน์ของเวียดนาม ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และอำนาจอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่ง รวมถึงการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่กลุ่มผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในเวียดนาม.

Komentar