การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดเนื่องจากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 128 ล้านคนที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและมีผู้ลงสมัครกว่า 1 หมื่น 7 พันคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีมาก่อน ในจำนวนคูหาเลือกตั้งกว่า 9 หมื่นแห่ง มีครึ่งหนึ่งในเขตที่มีความไร้เสถียรภาพ ซึ่งทางการปากีสถานต้องระดมเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงประมาณ 5 แสนคนเพื่อค้ำประกันการจัดการเลือกตั้ง นาย นาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถานมีโอกาสขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ทางการและนายกรัฐมนตรคนใหม่จะมีหน้าที่ที่หนักหน่วง โดยต้องแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สินของประเทศ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพและรับมือภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากกลุ่มก่อการร้าย.