(VOVworld) – เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน หลายประเทศได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องพลเมืองของตนหลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนโดยนาย เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ประกาศว่า รัฐบาลอังกฤษได้เพิ่มงบประมาณให้แก่กองทัพ 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันความพยายามในการต่อต้านองค์การก่อการร้าย “รัฐมุสลิม” หรือกลุ่มไอเอสโดยวงเงินครึ่งหนึ่งในวงเงิน 1 หมื่น 8 พัน 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้การช่วยเหลือต่างประเทศของอังกฤษจะสงวนให้แก่ประเทศที่ไร้เสถียรภาพเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะกลายเป็นฐานที่มั่นของลัทธิก่อการร้าย ส่วนนาย โบฮูซลาฟ โซบอตกา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็กได้ประกาศว่า สาธารณรัฐเช็กได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตามถนนสายต่างๆในกรุงปรากและเพิ่มการตรวจสอบในเขตชายแดนในทิศตะวันออกที่ติดกับสโลวาเกีย ในวันเดียวกัน ทางการนอร์เวย์ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามพกอาวุธปืนในขณะปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจประมาณ 6 พันนายซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์นี้ ส่วนเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นาง จูเลีย บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียได้เผยว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการพิจารณาออกวีซ่าให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและอิรักเข้าออสเตรเลียหลังจากเกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันเดียวกัน สหประชาชาติได้แสดงความเห็นว่าการปิดด่านชายแดนไม่ใช่มาตการแก้ไขปัญหาวิกฤตผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยุโรปกำลังต้องเผชิญ.