ประธานประเทศเวียดนามและประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

(VOVworld) – ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อเช้าวันที่ 6 กันยายน ประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวางเผยว่า ในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามและฝรั่งเศสได้เห็นพ้องกันที่จะส่งเสริมให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศมุ่งสู่การเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมบนพื้นฐานการถ่ายทอดเทคโนโลยีและด้านที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย สองฝ่ายจะขยายความร่วมมือด้านกลาโหม รวมทั้งการสนทนายุทธศาสตร์ด้านกลาโหม ความร่วมมือเกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเลและทางอากาศ ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้ย้ำว่า เวียดนามและฝรั่งเศสสนับสนุนกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับเอเชีย – แปซิฟิกและขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป            “ผมและท่านประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ยืนยันถึงการปฏิบัติตามกฎหมายสากลในเขตทะเลและมหาสมุทร ยืนยันอีกครั้งถึงการธำรงเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน สองฝ่ายย้ำถึงบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง ปฏิบัติตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หลังคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำอีกครั้งถึงบทบาทสำคัญของการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และสนับสนุนความพยายามจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว”
ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ยืนยันว่า ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2013 ความสัมพันธ์นี้ได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในทุกด้าน            “ผมมีความปรารถนาว่า การเยือนประเทศเวียดนามครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว เพื่อให้สถานประกอบการฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากขึ้น นอกจากนี้ สถานประกอบการของเวียดนามและฝรั่งเศสจะสามารถเจาะตลาดประเทศอื่นๆด้วย สำหรับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เราก็สามารถส่งเสริมในด้านวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และความรู้ ผมมีความยินดีมากที่ได้มาเยือนกรุงฮานอยในวันนี้และไปเยือนนครโฮจิมินห์ในพรุ่งนี้”
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังเผยว่า ฝรั่งเศสสนับสนุนหลักการเดินเรืออย่างเสรี ให้ความเคารพอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และถือว่า การสนทนาเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาการพิพาทต่างๆ
ในเช้าวันเดียวกัน ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้กล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยเกี่ยวกับอนาคตของเวียดนามและฝรั่งเศสและเดินเที่ยวย่านถนนโบราณ 36 สายในกรุงฮานอย.