เอกอัครราชทูตอียูประจำอาเซียน Igor Driesmans ชื่นชมการเตรียมพร้อมในทุกด้านสำหรับการประชุมและเห็นว่า ประเด็นสำคัญที่เวียดนามเน้นปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างอาเซียนที่มีความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัวนั้นมีความสอดคล้งกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การระบาดของโรคโควิดได้สร้างความเสียหายอย่างไม่เคยมีมาก่อนให้แก่เศรษฐกิจโลก ซึ่งในฐานะประธานอาเซียน เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการเชิดชูจิตใจแห่งความสามัคคี ร่วมมือและมีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกตั้งแต่ช่วงเริ่มเกิดวิกฤต ภายใต้การน้ำของเวียดนาม อาเซียนได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขผลกระทบและสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นในการประชุมระดับสูงอาเซียนนัดพิเศษเกี่ยวกับโควิด-19เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเวียดนามได้ยืนยันอีกครั้งบทบาทการเป็นศูนย์กลางและความสามัคคีของอาเซียนด้วยการธำรงส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมระวหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด ซึ่งในเวลาข้างหน้า ความสัมพันธ์อียูอาเซียนจะได้รับประโยชน์มากมายเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศลาว ทองพัน สะหวันเพชร หัวหน้าซอมอาเซียนลาวได้กล่าวว่า เวียดนามไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการจัดประชุมต่างๆเท่านั้นหากยังเสร็จสิ้นการหารือเนื้อหาต่างๆตามแผนการที่วางไว้โดยเฉพาะประเด็นที่ได้รับความสนใจที่ประเทศเจ้าภาพเวียดนามเสนอต่างได้บรรลุความคืบหน้าต่างๆ
ส่วนผู้เชี่ยวชาญไทยได้ประเมินว่า การประชุมเอเอ็มเอ็ม53และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องได้หารือในประเด็นต่างๆที่คลอบคลุมหัวข้อสำคัญและสะท้อนกลไกร่วมมือที่เข้มแข็งในสภาวการณ์โรคระบาดกำลังรุนแรง ตลอดจนมีการผลักดันแผนการแบบบูรณาการเพื่อการฟื้นฟูของอาเซียนหลังภาวะวิกฤต ดร.Balaz Szanto จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ ประเทศไทย ได้แสดงความเห็นว่า เวียดนามในฐานะประธานอาเซียน2020 ได้นำพาอาเซียนปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างถูกต้องเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด เวียดนามกำลังมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็นหนึ่งในประเทศที่ประกาศอธิปไตยในทะเลตะวันออก และข้อคิดริเริ่มต่างๆของเวียดนามในปีประธานอาเซียนนั้นล้วนมีความเข้มแข็งและมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจภูมิภาค.