วันที่๔ธันวาคม บรรดาประเทศตะวันตก รวมทั้ง สหรัฐและสหภาพยุโรปหรือ อียูได้เรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลเข้าพบเพื่อคัดค้านแผนการก่อสร้างเขตที่อยู่อาศัยใหม่ ๓ พันหลังในเขตดินแดนที่ยึดครองของปาเลสไตน์ ส่วนฝรั่งเศส เดนมาร์ก สเปนและสวีเดนก็ได้เรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลเข้าพบเพื่อแสดงความวิตกกังวลว่า แผนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของชาวยิวในเขตเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตเวสต์แบงก์ รวมทั้ง เขตE1 ที่จะเป็นการแบ่งเขตเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตเวสต์แบงก์ออกจากกัน ขณะที่สำนักงานการทูตอังกฤษได้ตำหนิและเรียกร้องให้อิสราเอลพิจารณายุติการปฏิบัติแผนการดังกล่าว ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เตือนว่า เขต E1 เป็นเขตพิเศษและมีความออ่นไหว ดังนั้น การก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตนี้จะส่งผลกระทบในทางลบต่อความพยายามในการบรรลุมาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ส่วนนาย Jay Carneyโฆษกของประธานาธิบดีสหรัฐได้มีการเจรจาผ่านโทรศัพท์กับนาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลและเรียกร้องให้ผู้นำของTel Aviv พิจารณาแผนการดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลเสียต่อการฟื้นฟูการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก่อนหน้านั้น แม้จะถูกคัดค้านจากประชาคมระหว่างประเทศ แต่เมื่อวันที่๓ธันวาคม รัฐบาลอิสราเอลได้ตัดสินใจฟื้นฟูโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ๑๖๐๐หลังในเขตRamat Shlomo และเขตเยรูซาเล็มตะวันออก โดยนาย Efrat Orbach โฆษกของกระทรวงมหาดไทยอิสราเอลได้เผยว่า ในอีก๒สัปดาห์หน้า คณะกรรมการที่ดูแลปัญหาเขตเยรูซาเล็มของกระทรวงมหาดไทยจะประชุมหารือเกี่ยวกับการถูกคัดค้านแผนการดังกล่าว เพื่อตัดสินใจว่า จะทำการปรับปรุงแผนการดังกล่าวหรือไม่./.