ปิดการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 31

Chia sẻ
(VOVworld) – นอกจากการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการเจรจาและมีส่วนร่วมต่อเนื้อหาของร่างมติทุกฉบับ เวียดนามยังเป็นผู้สนับสนุนมติเกี่ยวกับการปฏิบัติสิทธิด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม สิทธิด้านวัฒนธรรมและความหลากหลายด้านวัฒนธรรม 

ปิดการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 31 - ảnh 1
นาย เหงียนจุงแถ่ง เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ (vietnamplus)

(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม ณ สำนักงานของสหประชาชาติในเมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สภาสิทธิมนุษยชนได้อภิปรายนัดสุดท้ายเพื่ออนุมัติมติ 40 ฉบับและแถลงการณ์ของประธานสภาฯในการประชุมประจำปีครั้งที่ 31 คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย เหงียนจุงแถ่ง เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติได้เข้าร่วมการประชุม

สภาสิทธิมนุษยชนได้ลงคะแนนเห็นชอบร่างมติที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาคมโลก รวม 26 ฉบับและมติอีก 14 ฉบับ ที่น่าสนใจคือมติที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ในซีเรีย อิหร่าน เขตดินแดนของปาเลสไตยที่อิสราเอลยึดครอง การชุมนุมและหนี้ต่างประเทศ
บนพื้นฐานการให้ความสนใจและคำมั่นของเวียดนามต่อการปกป้องและผลักดันสิทธิมนุษยชน เอกอัครราชทูต เหงียนจุงแถ่งและคณะผู้แทนเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการหารือและอนุมัติมติฉบับต่างๆของการประชุมสมัยที่ 31 บนเจตนารมณ์แห่งการผลักดันและขยายการเข้าถึงสิทธิต่างๆของประชาชน ให้ความเคารพกฎบัตรสหประชาชาติและสถานการณ์ที่เป็นจริงระหว่างประเทศ ตลอดจนเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ เอกลักษณ์วัฒนธรรมและการพัฒนาของประเทศและภูมิภาค ในการพิจารณาร่างมติที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของแต่ละประเทศ เอกอัครราชทูต เหงียนแถ่งจุง ได้มีบทปราศรัยโดยส่งสาส์นของเวียดนามคือ สภาสิทธิมนุษยชนต้องพยายามผลักดันการสนทนาและร่วมมือเพื่อแสวงหามาตรการที่สมดุลและเหมาะสมต่อความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงไม่ให้สภาฯถูกฉกฉวยเพื่อเป้าหมายด้านการเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสภาฯ นอกจากการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการเจรจาและมีส่วนร่วมต่อเนื้อหาของร่างมติทุกฉบับ เวียดนามยังเป็นผู้สนับสนุนมติเกี่ยวกับการปฏิบัติสิทธิด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม สิทธิด้านวัฒนธรรมและความหลากหลายด้านวัฒนธรรม สิทธิการทำงานและสิทธิเกี่ยวกับอาหารซึ่งได้รับการอนุมัติผ่านการลงคะแนนเห็นชอบในการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนสมัยที่ 31.

Komentar