ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า จังหวัดฮึงเอียนเป็นแผ่นดินที่มีเกียรติประวัติแห่งความรักชาติและการปฏิวัติ จากการเป็นจังหวัดที่มีประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตร ในรอบ๒๐ปีที่ผ่านมา จังหวัดฮึงเอียนได้มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง โดยปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ทางจังหวัดฯก็ได้บรรลุความคืบหน้าในด้านวัฒนธรรมและสังคม โดยติดอยู่ในกลุ่ม๕จังหวัดที่มีอัตรานักเรียนที่ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากที่สุดในประเทศ ความมั่นคงทางการเมืองและความระเบียบเรียบร้อยทางสังคมได้รับการรักษา ท่านนายกรัฐมนตรีได้เผยว่า ในเวลาที่จะถึง ทางการจังหวัดฯต้องกำหนดว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืนต้องเชื่อมกับการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
“จากการเป็นจังหวัดที่มีเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและสังคมที่สะดวก โดยเฉพาะ เป็นประตูสู่กรุงฮานอย ในเวลาที่จะถึง จังหวัดฮึงเอียนต้องส่งเสริมศักยภาพและจุดได้เปรียบ แก้ไขปัญหาที่ยั่งคั่งค้างอยู่และฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ ทางจังหวัดฯต้องรณรงค์และใช้แหล่งพลังต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียง พยายามปฏิบัติเป้าหมายที่วางไว้ให้ประสบความสำเร็จ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรวดเร็ว”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกยังกำชับให้ทางการจังหวัดฯต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจ รวมทั้ง การเพิ่มดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของจังหวัด ควบคู่กันนั้น ทางจังหวัดฯต้องให้ความสนใจต่อการพัฒนาแหล่งบุคลากร ยกระดับคุณภาพของการศึกษาและการฝึกสอนอาชีพ ลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ไปจุดธูปที่อนุสรณ์สถานอดีตเลขาธิการใหญ่ เหงวียนวันลิง เดินทางไปเยือนและมอบของขวัญให้แก่คุณแม่วีรชน เหงวียนถิแทงในตำบลเลี่ยนเฟือง นครฮึงเอียน.