นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุง : เวียดนามมีความประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ในทุกด้านกับอียู

Chia sẻ
(VOVworld) – อียูเป็นหุ้นส่วนสำคัญอันดับต้นๆของเวียดนามในหลายด้าน เช่น การเมือง เศรษฐิจ – การค้า ความร่วมมือพัฒนาและความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก
นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุง : เวียดนามมีความประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ในทุกด้านกับอียู - ảnh 1
อียูเป็นหุ้นส่วนสำคัญอันดับต้นๆของเวียดนามในหลายด้าน (Photo VGP)

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม หนังสือพิมพ์ออนไลน์ NewEurope ของเบลเยี่ยมได้ลงบทสัมภาษณ์ ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามโดยใช้พาดหัวว่า “เวียดนามต้อนรับทุกประเทศขยายความร่วมมือ” เนื่องในโอกาสที่ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้เดินทางไปเยือนประเทศเบลเยี่ยมและสหภาพยุโรปหรืออียูอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงได้เผยว่า ตนอยากส่งสาร์นต่ออียูว่า “เวียดนามให้ความสำคัญและมีความปรารถนาที่จะขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับอียู” พร้อมทั้งย้ำว่า อียูเป็นหุ้นส่วนสำคัญอันดับต้นๆของเวียดนามในหลายด้าน เช่น การเมือง เศรษฐิจ – การค้า ความร่วมมือพัฒนาและความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก ซึ่งความสัมพันธ์นี้กำลังสุกงอมและขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ตามแนวทางที่จริงจังและมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีระบุว่า การลงนามกรอบข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านหรือพีซีเออย่างเป็นทางการ รวมทั้งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูหรือ EVFTA นับตั้งแต่ปี 2012 ถือก้าวพัฒนาอย่างรวดเร็วและสำคัญต่อความสัมพันธ์เวียดนาม – อียู
สำหรับการแปรสภาพสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนและการปรับปรุงสถานประกอบการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียกเงินลงทุนต่างชาตินั้น ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้ชี้ชัดว่า ปัจจุบันนี้ เวียดนามกำลังปรับปรุงสถานประกอบการภาครัฐอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศในการซื้อหุ้น เวียดนามจะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติโดยสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ยุติธรรมระหว่างเศรษฐกิจทุกภาคและปรับปรุงกฎหมายการลงทุนต่างชาติ
สำหรับปัญหาอธิปไตยทางดินแดน ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้แถลงว่า เวียดนามยืนหยัดการปกป้องอธิปไตยของประเทศและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของเวียดนามในทะเลตะวันออกตามกฎหมายสากล “เวียดนามให้ความสำคัญและมีความปรารถนาที่จะขยายความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่เป็นมิตรและความร่วมมือในทุกด้านกับจีน”
เกี่ยวกับการที่สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธสังหารส่วนหนึ่งให้แก่เวียดนามและความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านกลาโหม นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงยืนยันว่า เวียดนามยินดีต้อนรับทุกประเทศ โดยเฉพาะบรรดาประเทศมหาอำนาจเช่นสหรัฐและขยายความร่วมมือกับบรรดาประเทศเอเชีย – แปซิฟิก
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างเขื่อนแม่น้ำขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขง ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อหน่วยงานอุตสาหกรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนริมแม่น้ำสายนี้และมาตรการแก้ไขของเวียดนาม ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้ย้ำว่า เวียดนามมีความประสงค์ว่า ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อวิจัยผลกระทบของโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ก่อสร้างในแม่น้ำโขงสายหลักก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินโครงการอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เสมอภาคและใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำเพื่อปกป้องระบบนิเวศและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกประเทศริมฝั่งแม่น้ำฯและประชาชนในภูมิภาคนี้./.

Komentar