นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเจรจากับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊ก สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเจรจากับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเจรจากับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (Photo VGP) 

หลังพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ ณ ทำเนียบประธานประเทศ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เจรจากับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจต่อก้าวพัฒนาที่เข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาในเวลาที่ผ่านมา ได้มีการพบปะสงสรรค์ระดับผู้นำและระดับต่างๆ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่ติดชายแดนกันเพื่อสร้างความไว้วางใจกันและความผูกพันใกล้ชิด สำหรับมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2018 ได้มีก้าวกระโดด โดยอาจบรรลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีเงินลงทุนมากที่สุดในกัมพูชาด้วย 200 โครงการ ยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อธำรงบรรยากาศที่สันติ ความมั่นคงและความมีเสถียรภาพของแต่ละประเทศ

ในด้านการค้า นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ชื่นชมการเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าชายแดนและการลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะบรรลุ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและสูงกว่าตัวเลขนี้ภายในปี 2020

สำหรับปัญหาภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมทั้งยืนยันการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาประชาคมอาเซีย ธำรงหลักการของอาเซียน ปรับปรุงความสามัคคีและการพึ่งพาตนเอง เชิดชูบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ส่งเสริมความร่วมมือสามเหลี่ยมพัฒนากัมพูชา – ลาว – เวียดนามและอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยายวงเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาและมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่ง การปักปันและปักหลักพรมแดนและการศึกษา เป็นต้น นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเผยว่า “ผมและสมเด็จฮุนเซนได้เห็นพ้องที่จะวางแนวทางที่สำคัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีแนวทาง “เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความร่วมมืออย่างรอบด้าน ยั่งยืนและยาวนาน” พร้อมทั้งยืนยันว่า จะกระชับความสัมพันธ์ด้านการเมือง กลาโหม ความมั่นคงเพื่อธำรงบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพของแต่ละประเทศ ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ทั้ง 2 ฝ่ายย้ำว่า จะให้ความสนใจและพยายามกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้บรรลุผลงานใหม่และกลายเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ทวิภาคี พวกเราเห็นพ้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ส่งเสริมประสิทธิภาพของ 22 กลไกการสนทนาและความร่วมมือทวิภาคีเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการทั้ง 2 ประเทศเพื่อผลักดันการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศในปีต่อๆไป”.

Komentar