นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุก: สามัคคี รวมมือและผลักดันลัทธิพหุภาคีโดยถือสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง (Photo VGP)

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุกได้กล่าวปราศรัยย้ำว่า จากเถ้าถ่านของสงคราม ภายหลัง 75 ปี โลกไม่เกิดสงครามครั้งใหม่อีก สันติภาพ ความร่วมมือ ไมตรีจิตมิตรภาพได้รับการเสริมสร้าง สามารถขจัดความยากจนและโรคภัยไข้เจ็บ ชีวิตของมนุษย์ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี ซึ่งผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้มาจากการปฏิบัติหลักการขั้นพื้นฐานในกฎบัตรสหประชาชาติ เราไม่สามารถบรรลุผลงานเหล่านี้ได้ถ้าหากไม่มีสหประชาชาติ  ซึ่งเป็น “ศูนย์กลางประสานงานเพื่อการปฏิบัติร่วมกันของทุกประเทศ"

สำหรับประเทศเวียดนาม หลังการต่อสู้เป็นเวลาหลายทศวรรษด้วยเจตนารมณ์"ไม่มีสิ่งใดล้ำค่าไปกว่าเอกราชและเสรีภาพ" และในตลอด 35 ปีแห่งการปฏิบัตินโยบายเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ โดยถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง เวียดนามในทุกวันนี้ได้มีการพัฒนาอย่างคล่องตัว มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างกว้างลึก เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เข้าร่วมฟอรัมพหุภาคีต่างๆอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะสหประชาชาติ พยายามบรรลุเป้าหมาย “ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเข้มแข็ง ยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุกยืนยันว่า “เราขอขอบคุณประเทศต่างๆที่ได้สนับสนุนเวียดนามดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวอย่างลุล่วงไปด้วยดี นอกจากนี้เวียดนามก็ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2020 จึงร่วมมือกับประเทศสมาชิกอื่นๆสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่สามัคคี พึ่งพาตัวเองและเจริญรุ่งเรือง ประชาชนเวียดนามตั้งใจร่วมมือกับประชาชาติต่างๆในทั่วโลกรักษาสันติภาพและปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ SDG 2030 ของสหประชาชาติ เวียดนามจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในทั่วโลกอีกมากมาย เชื่อว่า ด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสุดความสามารถ เราจะร่วมกันสร้างโลกที่สงบสุขและอนาคตที่สดใสได้”