(VOVworld) – บ่ายวันที่ 7 กันยายน ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 28และ29 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน +1 กับสาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลียและสหประชาชาติ การประชุมสุดยอดอาเซียน + 3 และการประชุมสุดยอดแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่น โดยหุ้นส่วนต่างชื่นชมบทบาทของอาเซียนและเสนอมาตรการขยายความร่วมมือในหลายด้านกับอาเซียน ส่วนบรรดาประเทศอาเซียนได้เรียกร้องให้หุ้นส่วนส่งเสริมกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สนับสนุนแหล่งพลังและประสบการณ์ เพิ่มทักษะความสามารถ ลดช่องว่างการพัฒนาและร่วมกับอาเซียนรับมือกับความท้าทายข้างชาติ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนและคำมั่นของหุ้นส่วนในการสนับสนุนอาเซียนสร้างสรรค์ประชาคมและพัฒนาบทบาทการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค เรียกร้องให้หุ้นส่วนขยายความร่วมมือในด้านที่ได้รับสิทธิพิเศษและเป็นจุดแข็งของแต่ละฝ่าย

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เรียกร้องให้ปฏิบัติแผนปฏิบัติการระยะปี 2016-2020 โดยเน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ผลักดันความเชื่อมโยงในภูมิภาคทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงสร้างอิเล็กทรอนิก

เพื่อผลักดันความร่วมมืออาเซียน + 3 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเรียกร้องให้ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเงิน การเชื่อมโยงและผสมผสานเศรษฐกิจภายในภูมิภาค พัฒนาสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดเล็ก ขยายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น

ในการประชุมสุดยอดอาเซียน – ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำถึงการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนและการลงทุน

สำหรับความร่วมมือกับสหประชาชาติ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ย้ำว่า สหประชาชาติมีบทบาทสำคัญในชีวิตทางการเมืองของโลกและเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของโลกที่สันติภาพ เจริญรุ่งเรืองและมีความยุติธรรมมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายควรประสานงานปฏิบัติเป้าหมายต่างๆในวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 และระเบียบวาระการประชุมในปี 2030 ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหประชาชาติช่วยเพิ่มทักษะความสามารถให้แก่อาเซียนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปฏิบัติคำมั่น COP 21 เสริมสร้างความไว้วางใจและปฏิบัติการทูตเชิงป้องกัน ยับยั้งและควบคุมการปะทะในภูมิภาค

ในการประชุมเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังแสดงทัศนะและจุดยืนของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจ โดยยืนยันจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือ สนับสนุนการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความอดกลั้นและปฏิบัติมติที่เกี่ยวข้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างจริงจัง เวียดนามสนับสนุนความพยายามส่งเสริมสถานการณ์ในทะเลตะวันออกตามแนวทางที่เอื้อประโยชน์ให้แก่สันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัยในทะเลตะวันออก เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความอดกลั้น ไม่มีปฎิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ให้ความเคารพกระบวนทางการทูตและนิตินัย สนับสนุนอาเซียนและจีนปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว.