นายกรัฐมนตรีชื่นชมการช่วยเหลือของสถาบันการเงิน ประเทศต่างๆต่อการพัฒนาของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง

Chia sẻ
(VOVworld) – นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงมาตรการพัฒนาเกิ่นเทอให้กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของจังหวัดต่างๆในภาคตะวันตก ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและการผสมผสานด้านเศรษฐกิจของภาคตะวันตกเข้ากับประเทศ ภูมิภาคและโลก

นายกรัฐมนตรีชื่นชมการช่วยเหลือของสถาบันการเงิน ประเทศต่างๆต่อการพัฒนาของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง - ảnh 1
ฟอรั่มเขตที่ราบลุ่มแม่นำโขงปี 2016 (vnexpress.net)

(VOVworld) – ฟอรั่มเขตที่ราบลุ่มแม่นำโขงปี 2016 ภายใต้หัวข้อ “เพื่อเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงที่เจริญรุ่งเรืองและปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศ” ได้มีขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 27 มิถุนายน ณ นครโฮจิมินห์โดยมีการเข้าร่วมของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ในฟอรั่ม บรรดาผู้แทนได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เสนอมาตรการเพื่อช่วยให้เขตนี้พัฒนา ในการกล่าวปราศรัยเปิดฟอรั่ม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้ย้ำว่า เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงกำลังมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจการเกษตรที่อิจฉริยะและยั่งยืนและมีคุณค่าเพิ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย ดังนั้น นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงมาตรการพัฒนาเกิ่นเทอให้กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของจังหวัดต่างๆในภาคตะวันตก ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและการผสมผสานด้านเศรษฐกิจของภาคตะวันตกเข้ากับประเทศ ภูมิภาคและโลก ลงทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปลูกข้าว ผลไม้และเน้นให้ความสนใจถึงเครื่องหมายการค้า สำหรับความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนพัฒนาต่างๆ รวมทั้งธนาคารโลก นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้กำชับว่า “ธนาคารโลกต้องขยายการจัดสรรสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำตามมาตรฐานสูงสุด ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินเร็วที่สุด ช่วยเหลือด้านเทคนิคและประสบการณ์ในการผลักดันความสามารถในการพยากรณ์ เตือนภัย ประเมินศักยภาพเกี่ยวกับผิวน้ำ น้ำใต้ดินและปัญหาดินถล่ม สร้างสรรค์เครือข่ายตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลหนุน แผนการพัฒนาของเขต ยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากรและทักษะความสามารถในการบริหารภาครัฐในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้แก่ท้องถิ่นที่ได้รับความเสียหาย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้ดีและเร็วที่สุดและหน้าที่ของจังหวัดและนครต่างๆของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง”.

Komentar