ภาพของพิธี |
ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า จากการที่มีสถานะทางภูมิศาสตร์และสภาพธรรมชาติที่เอื้ออำนวย จังหวัดกว๋างหงายสามารถพัฒนาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของภาคกลางและของประเทศ “ควบคู่กับรัฐบาล กระทรวงและสำนักงานที่เกี่ยวข้องต้องวิจัยตลาด กำหนดและพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมเบาและอุตสาหกรรมสนับสนุนในเขตเศรษฐกิจยุงก๊วด โดยต้องให้ความสนใจต่อการดึงดูดสถานประกอบการชั้นนำที่ประกอบธุรกิจในด้านการกลั่นน้ำมัน ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุศาสตร์ การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าการส่งออก การพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมบนพื้นฐานของการพัฒนานวัตกรรม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่และการผสานระหว่างสถานประกอบการในท้องถิ่นกับสถานประกอบการเอฟดีไอในการสร้างสรรค์ห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาคและโลก เป็นฝ่ายรุกในการเชื่อมโยงและพัฒนาท้องถิ่นต่างๆ”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ชี้ชัดว่า จังหวัดกว๋างหงายต้องปฏิบัติหน้าที่หลัก รวมทั้ง ปฏิบัติ 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์คือการพัฒนาอุตสาหกรรม การลงทุนเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการยกระดับคุณภาพของแหล่งบุคลากรผสานกับการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและการบริการ ควบคู่กันนั้นคือผลักดันการปฏิบัติโครงการต่างๆในท้องถิ่น เช่น โครงการขยายเขตเศรษฐกิจยุงก๊วดระยะ 2 เส้นทางริมฝั่งทะเลยุงก๊วด-ซาหวี่ญ เส้นทางไฮเวย์ โครงการท่องเที่ยวริมฝั่งทะเล ท่าเรือ โครงสร้างพื้นฐานของเขตเศรษฐกิจยุงก๊วดและรูปแบบการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ก่อนหน้านั้น ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เดินทางไปเยือนเมืองแห่งการศึกษาระหว่างประเทศกว๋างหงาย ซึ่งเป็นรูปแบบการศึกษาระหว่างประเทศแห่งแรกที่ครอบคลุมทุกด้านในเวียดนาม.