(Photo Internet)
( VOVworld )-คอลั่มพิเศษของน.ส.พ.ใหญ่ๆของเวียดนามฉบับวันที่ ๘ พฤษภาคมได้ลงบทความและภาพเกี่ยวกับชัยชนะเหนือฟาสซิสต์ก่อนหน้านี้ ๗๐ ปี น.ส.พ.เญินเซินเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ บทเพลงแห่งวีรกรรมสตาลินกราตยังคงกังวาลตลอดกาล ” โดยท้าวถึงหลักหมายทางประวัติศาสตร์ในการสู้รบที่สตาลินกราตที่น่าจดจำ ซึ่งเป็นชัยชนะที่ส่งผลให้สงครามโลกครั้งที่ ๒ มีการเปลี่ยนแปลงไปอันเป็นการนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของฟาตซิสต์เยอรมนีอย่างสิ้นเชิง ส่วนบทวิเคราะห์ของน.ส.พ.เญินเซินที่พาดหัวว่า “ ชัยชนะของกองทัพแดงโซเวียดและโอกาสสำหรับการปฏิวัติเวียดนาม ” โดยยืนยันว่า การปฏิวัติเดือนตุลาคมของรัสเซียสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนที่ถูกกดขี่ขุดรีดสามารถโค่นล้มแอกปกครองและสร้างสรรค์สังคมใหม่ด้วยตนเอง บทความชี้ชัดว่า “ ความกล้าหาญและความเสียสละอันสูงส่งของตน กองทัพแดงและประชาชนโซเวียดไม่เพียงแต่สามารถพิทักษ์ตนเองได้เท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมต่อการปลดปล่อยหลายประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของลัทธิฟาสซิสต์ ส่งผลให้เกิดประเทศสังคมนิยมหลายประเทศ ” ชัยชนะของกองทัพแดงโซเวียดเมื่อปีค.ศ.๑๙๔๕ได้ส่งผลดีต่อการปฏิวัติเวียดนาม ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการนำประชาชนทั้งชาติทำการปลดปล่อยประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รู้จักใช้โอกาสนี้ในการรณรงค์ประชาชนทั้งปวงให้ลุกฮือและยึดคืนอำนาจการบริหารประเทศจากฟาสซิสต์ญี่ปุ่น ส่วนนายคอนสตานติน ฟนูอกอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวน.ส.พ.เญินเซินโดยยืนยันว่า มหาชัยในการต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์เป็นชัยชนะของกองกำลังที่ก้าวหน้าและประชาธิปไตยในโลก เป็นชัยชนะของประชาชาติที่ฝักใฝ่สันติภาพรวมทั้งเวียดนาม นายคอนสตานติต ฟนูกอฟยังเห็นว่า ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ควรฝึกฝนจิตใจรักชาติและการต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ให้แก่คนรุ่นใหม่ ทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับชัยชนะในการต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ในในสงครามโลกครั้งที่ ๒ อย่างถูกต้องและไม่ปล่อยให้มีการบิดเบือนประวัติศาสตร์
น.ส.พ.กวนโด่ยเญินเซินได้ลงภาพ “ นักรบโซเวียด วี.กันตาเรียปักธงโซเวียดบนหลังคาอาคารรัฐสภาเยอรมนีในวันที่ ๓๐ เมษายนค.ศ.๑๙๔๕ ” ในหน้าแรก และเสนอบทความที่พาดหัวว่า “ ชัยชนะอันกล้าหาญในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ” โดยยกย่องชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกองทัพแดงโซเวียด และชี้ชัดว่า ชัยชนะเหนือฟาสซิสต์ได้เปิดหน้าใหม่ในการเมืองโลกด้วยการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติและกฎบัติสหประชาชาติ ซึ่งเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ๗๐ ปีได้ผ่านพ้นไปแต่บทเรียนของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ยังคงทรงคุณค่า น.ส.พ.กวนโด่ยเญินเซินยังเปิดคอลั่มพิเศษโดยมีบทความเกี่ยวกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในสมรภูมิที่ส่งผลต่อชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ ๙ พฤษภาคมค.ศ.๑๙๔๕
ส่วนน.ส.พ.ไซ่ง่อนหย่ายฟ้องหรือไซ่ง่อนปลดปล่อยได้เสนอบทความที่พาดหัวว่า “ สำนึกในบุณคุณของประชาชนและทหารแดงโซเวียด ”โดยสรุประยะที่สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ช่วงปีค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕ บทความยกย่องชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของประชาชนและกองทัพแดงโซเวียดที่วีรกรรม ./.