นักบินอวกาศหญิงเชื้อสายเวียดนามคนแรกจะขึ้นสู่อวกาศด้วยยานอวกาศ นิว เชพเพิร์ดของ Blue Origin

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 5 กันยายน ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรเวียดนามประจำสหประชาชาติได้ให้การต้อนรับคุณ Amanda Nguyễn ชาวสหรัฐเชื้อสายเวียดนามที่จะขึ้นไปบนอวกาศพร้อมกับยาน นิว เชพเพิร์ดของ Blue Origin ในช่วงกลางปี 2025 
นักบินอวกาศหญิงเชื้อสายเวียดนามคนแรกจะขึ้นสู่อวกาศด้วยยานอวกาศ นิว เชพเพิร์ดของ Blue Origin - ảnh 1เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรเวียดนามประจำสหประชาชาติได้ให้การต้อนรับคุณ Amanda Nguyễn

เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง ได้แสดงความยินดีต่อคุณ Amanda Nguyễn พร้อมทั้งย้ำว่า กิจกรรมนี้จะมีส่วนร่วมยืนยันคุณค่า ความสามารถและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สตรีเวียดนาม ชื่นชมความพยายามของคุณ Amanda Nguyễn ในการต่อสู้เพื่อสิทธิของสตรีและช่วยเหลือผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและย้ำว่า สตรีเวียดนามมีบทบาทสำคัญทั้งในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศมานานนับพันปีและการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน ซึ่งรัฐเวียดนามให้ความสนใจส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ อำนวยความสะดวกให้แก่สตรีในการส่งเสริมบทบาทและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม เข้าร่วมความพยายามของประชาคมโลกในเรื่องนี้ และแสดงความประสงค์ว่า คุณ Amanda Nguyễn จะมุ่งใจสู่ปิตุภูมิ มีส่วนร่วมเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ เป็นสะพานเชื่อเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ

ส่วนคุณ Amanda Nguyễn ได้แสดงความภาคภูมิใจที่เป็นคนเวียดนามและเป็นสตรีเชื้อสายเวียดนามคนแรกที่จะได้ขึ้นสู่อวกาศ และหวังว่า นี่จะเป็นโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของสตรีเวียดนาม การเชื่อมโยงชุมชน ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ การต่อต้านการใช้ความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ

คุณ Amanda Nguyễn เกิดเมื่อปี 1991 เป็นสตรีเชื้อสายเวียดนามคนแรกที่เข้าร่วมโครงการ Space for Humanity ในฤดูร้อนปี 2025 เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่ต่อต้านการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐ โดยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2019 และถูกยกให้เป็น 1 ในสตรีแห่งปี 2022 ของนิตยสาร Time ได้รับรางวัล Heinz ประจำปีครั้งที่ 24 เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ รางวัล Nelson Mandela Changemaker, Time 100 Next, Forbes 30 Under 30 และได้รับการโหวตให้เป็น 1 ในผู้ที่มีอิทธิพล 100 คนของนิตยสาร Foreign Policy. 

Komentar