ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้การต้อนรับนาย จิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก
|
(VOVworld) – เมื่อเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ณ สำนักรัฐบาล ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ให้การต้อนรับนาย จิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม โดยแสดงความประสงค์ว่า จะได้รับความร่วมมือจากธนาคารโลกต่อไป โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านเงินทุน การให้คำปรึกษาด้านนโยบายและการช่วยเหลือด้านเทคนิกในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาต่างๆให้ประสบความสำเร็จ นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงยังชื่นชมการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามกับธนาคารโลกเพื่อจัดทำร่างรายงาน “เวียดนามปี 2030 – มุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรือง ความสร้างสรรค์ ความยุติธรรมและประชาธิปไตย” โดยมีเป้าหมายและข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับแนวทางพัฒนาของเวียดนาม เวียดนามมีความประสงค์ที่จะได้รับความร่วมมือและเดินไปพร้อมกับธนาคารโลกในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแหล่งเงินทุน การแสวงหาและเข้าถึงแหล่งอุปถัมภ์ที่ได้รับสิทธิพิเศษ ให้คำปรึกษาด้านนโยบาย สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เวียดนามธำรงรักษาผลสำเร็จของการพัฒนา พร้อมทั้งพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกได้ย้ำถึงคำมั่นของธนาคารโลกต่อกระบวนการพัฒนาของเวียดนามโดยยืนยันว่า ธนาคารโลกจะให้ความสนใจต่อการช่วยเหลือเวียดนามในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ได้รับสิทธิพิเศษ มีดอกเบี้ยต่ำและมีระยะเวลากู้เงินระยะยาวเพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียน พัฒนาการศึกษา สาธารณสุข รวมไปถึงการลดอัตราเด็กอายุตั้งแต่ 0-5 ขวบที่ขาดสารอาหาร ซึ่งกำลังอยู่ในระดับสูงคือประมาณร้อยละ 30
บ่ายวันเดียวกัน ท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ได้ให้การต้อนรับประธานธนาคารโลกโดยได้ยืนยันว่าเวียดนามจะผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านเพื่อนำเวียดนามพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน ดังนั้นหน้าที่ในเวลาข้างหน้าของเวียดนามคือเน้นยกระดับคุณภาพการขยายตัว ผลผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขัน ปฏิบัติสามก้าวกระโดดยุทธศาสตร์ ปฏิรูปเศรษฐกิจควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว ปฏิบัติแผนการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นหุ้นส่วน ปรับโครงสร้างงบประมาณแผ่นดินและแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ
ส่วนประธานธนาคารโลกได้ยืนยันว่าทางธนาคารโลกจะสนับสนุนเวียดนามต่อไปโดยเฉพาะรณรงค์ให้กลไกการเงินระหว่างประเทศสงวนสิทธิพิเศษในด้านการเงินแก่เวียดนามเพื่อช่วยผลักดันภารกิจการพัฒนาปฏิรูปเศรษฐกิจ สร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจมหภาคเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนเวียดนามปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาต่างๆอย่างสำเร็จ.