ท่าเรือหญ่าโหร่ง-พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์

To Tuan – VOV5
Chia sẻ
( VOVworld )-ท่าเรือหญ่าโหร่งในนครโฮจิมินห์เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักเพราะมันผูกพันกับชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์  ก่อนหน้านี้กว่า ๑๐๐ ปี ณ ท่าเรืองแห่งนี้ ประธานโฮจิมินห์ได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหาทางกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ  ภายหลังใช้ชีวิตในต่างประเทศมาหลายปี ท่านได้กลับประเทศเพื่อนำประชาชนทำการลุกฮือเพื่อปลดปล่อยประชาชาติและกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ  ทุกวันนี้ ท่าเรือหญ่าโหร่งได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยของพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย

( VOVworld )-ท่าเรือหญ่าโหร่งในนครโฮจิมินห์เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักเพราะมันผูกพันกับชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์  ก่อนหน้านี้กว่า ๑๐๐ ปี ณ ท่าเรืองแห่งนี้ ประธานโฮจิมินห์ได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหาทางกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ  ภายหลังใช้ชีวิตในต่างประเทศมาหลายปี ท่านได้กลับประเทศเพื่อนำประชาชนทำการลุกฮือเพื่อปลดปล่อยประชาชาติและกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ  ทุกวันนี้ ท่าเรือหญ่าโหร่งได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยของพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย

ท่าเรือหญ่าโหร่ง-พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ - ảnh 1
ท่านเรือหญ่าโหร่งยามราตรี

หญ่าโหร่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสหนึ่งแห่งที่ยังหลงเหลือในนครโฮจิมินห์  หากยืนที่ท่าเรือแบกดั่งหรือท่าเรือข้ามฟากถู่เทียมมองไปทางฝั่งตรงข้ามจะมองเห็นอาคารโบราณสไตล์ยุโรปและเอเชียตั้งอยู่อย่างสง่างาม  นั่นคืออาคารหญ่าโหร่ง  คุณทูเหงวียต ไกด์นำเที่ยวและผู้บรรยายของเขตอนุสรณ์สถานท่าเรือหญ่าโหร่งเปิดเผยว่า  “ ชาวฝรั่งเศสก่อสร้างหญ่าโหร่งตั้งแต่กลางปีค.ศ.๑๘๖๒และเสร็จในปลายปีค.ศ.๑๘๖๓  เนื่องจากถูกก่อสร้างโดยชาวฝรั่งเศสดังนั้นจึงมีสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส และโดดเด่นโดยเฉพาะหลังคาได้รับการตบแต่งด้วยผลงานประติมากรรมนูนสูงคือ มังกรสองตัวหันหน้าเข้ากันที่ตรงกลางมีพระจันทร์ตามสไตล์เอเชียตะวันออกที่เรียกว่า มังกรชมพระจันทร์  ทั้งนี้เป็นที่มาของชื่อหญ่าโหร่งที่หมายถึงบ้านของมังกร ส่วนท่าเรือที่มีบ้านของมังกรเรียกว่า ท่าเรือหญ่าโหร่ง

อาคารหญ่าโหร่งเคยเป็นสำนักงานของเครือบริษัทขนส่งหว่างเด๊หรือจักรพรรดิ  ปีค.ศ.๑๙๕๕ ฝรั่งเศสประสบความพ่ายแพ้ในเวียดนาม ท่าเรือพาณิชย์ไซ่ง่อนซึ่งมีหญ่าโหร่งรวมอยู่ด้วยถูกถ่ายโอนให้แก่รัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนาม  การคงอยู่ของท่าเรือหญ่าโหร่งมากว่า ๑๕๐ ปีผูกพันกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์คือเป็นสถานที่ประธานโฮจิมินห์เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหาทางกู้ชาติ คุณหมีแหง ไกด์นำเที่ยวของนครโฮจิมินห์เปิดเผยว่า  ท่าเรือหญ่าโหร่งเป็นท่าเรือพาณิชย์ใหญ่ของผืนดินไซ่ง่อน-ยาดิ่งในอดีต  ณ ท่าเรือแห่งนี้ หนุ่มวันบาหรือประธานโฮจิมินห์ได้เริ่มการเดินทางไปหาเส้นทางกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ

ท่าเรือหญ่าโหร่ง-พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ - ảnh 2
เอกสารต่างๆจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

วันที่ ๕ มิถุนายนปีค.ศ.๑๙๑๑ หนุ่มวันบาคือประธานโฮจิมินห์ได้ลงเรืออามีราล ลาตูช เตรวิลของฝรั่งเศสเพื่อเดินทางออกนอกประเทศหาทางกู้ชาติ  ท่านได้เดินทางผ่านหลายประเทศในหลายทวีปเป็นเวลา ๓๐ ปี และในปีค.ศ.๑๙๔๑ ท่านได้กลับประเทศโดยใช้ชื่อว่า โฮจิมินห์เพื่อนำขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติ  วันที่ ๒ กันยายนปีค.ศ.๑๙๔๕ ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช ณ จัตุรัสบาดิ่งห์ กรุงฮานอย อันเป็นการกำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามและเปิดหน้าใหม่ให้แก่การต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติเวียดนามจากแอกปกครองของนักล่าเมืองขึ้น  เมื่อประเทศได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ในปีค.ศ.๑๙๗๕ อาคารหญ่าโหร่งได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอนุสรณ์สถานเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์

ท่าเรือหญ่าโหร่ง-พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ - ảnh 3
มุมหนึ่งภายในพิพิธภัณฑ์

ปีค.ศ.๑๙๙๕ อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์หญ่าโหร่งได้รับการยกสถานะเป็นพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์จากทั้งหมด ๑๑ แห่งทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่ ๒๕๐ ตารางเมตรรวม ๓ ห้องจัดแสดงและปัจจุบันได้ขยายพื้นที่เป็น ๑๔๘ ตารางเมตรรวม ๙ ห้องจัดแสดงเอกสารและสิ่งของวัตถุกว่า ๑๑,๓๐๐ ชิ้น และสิ่งของจัดแสดงกลางแจ้งกว่า ๔๕๐ ชิ้น  ซึ่งเป็นเอกสารและสิ่งของวัตถุที่หายากและทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจชีวประวัติและภารกิจปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะยางรถที่ติดตามท่านไปทั่วทุกแห่งหนใน ๕ ทวีปและก้อนอิฐที่เผาให้ความอบอุ่นแก่ท่านยามฤดูหนาวในต่างประเทศ ตลอดจนบันทึกของคณะผู้แทนพรรคประชาชนปฏิวัติลาวที่เขียนไว้ในสมุดเยี่ยมว่า “ ประธานโฮจิมินห์ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามเท่านั้น หากยังเป็นผู้นำของพวกเราอีกด้วย ” ส่วนนักท่องเที่ยวจากบัลกาเรียได้เขียนว่า “  เพื่อนมิตรหลายล้านคนในโลกเคารพศรัทธาต่อบุคลลิกอันยิ่งใหญ่ของประธานโฮจิมินห์เพราะท่านเดินทางไปต่างประเทศหลายแห่งหนเพื่อหาทางปลดปล่อยประชาชาติ  ชีวิตท่านคือความเสียสละทุกอย่าง  ” ส่วนนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้เขียนว่า “ โฮจิมินห์คือบุคคลยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งในศตวรรษที่ ๒๐ ” ./.


Komentar