นาง เลถิทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม) |
สำหรับปฏิกิริยาของเวียดนามต่อการที่สหรัฐเปิดสถานทูตประจำอิสราเอลในเมืองเยรูซาเล็มและสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค นาง เลถิทูหั่ง ได้ชี้ชัดว่า“เวียดนามเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายต่างๆใช้ความอดกลั้น คัดค้านการใช้กำลังเพื่อมุ่งยุติปัญหาความตึงเครียด พร้อมทั้งเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาการปะทะด้วยสันติวิธี พยายามแสวงหามาตรการที่ยุติธรรมและรอบด้านเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและผลประโยชน์อันชอบธรรมของฝ่ายต่างๆและการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งการปฏิบัติทุกมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเมืองเยรูซาเล็มต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายสากล โดยเฉพาะมติของสหประชาชาติภายใต้การสนับสนุนของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง จุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือสนับสนุนการต่อสู้ที่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชนปาเลสไตน์ มาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนพื้นฐานของเส้นแบ่งพรมแดนก่อนปี 1967 และการกำหนดเมืองเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์”
ส่วนสำหรับปฏิกิริยาของเวียดนามต่อการที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน นาง เลถิทูหั่งได้เผยว่า“เวียดนามสนับสนุนการสนทนาในการแสวงหามาตรการสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง พร้อมทั้งหวังว่า ฝ่ายต่างๆที่เข้าร่วมแผนปฏิบัติงานร่วมในทุกด้าน หรือ JCPOA จะทำการเจรจาต่อไปเพื่อแสวงหามาตรการนำสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่ภูมิภาคและโลกอย่างยาวนาน”
ส่วนสำหรับการที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะพบปะกับนาย คิมจองอึน ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในวันที่ 12 มิถุนายน ที่ประเทศสิงคโปร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เลถิทูหั่งได้เผยว่า เวียดนามสนับสนุนความพยายามแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ผ่านการสนทนาเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลีและโลก.