ทุกประเทศต้องมีหน้าที่เคารพหลักการณ์พื้นฐานของกฎหมายสากล

Chia sẻ
(VOVWORLD) - โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังย้ำถึงนโยบายด้านการต่างประเทศ ที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง มีความหลากหลายรูปแบบและพหุภาคี ผสมผสานเข้ากับโลกอย่างกว้างลึก พัฒนาความร่วมมือกับทุกหุ้นส่วนบนพื้นฐานการสร้างประโยชน์ร่วม เคารพกฎหมายสากลเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาคและโลก 
ทุกประเทศต้องมีหน้าที่เคารพหลักการณ์พื้นฐานของกฎหมายสากล - ảnh 1

ต่อข่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนที่ลงบนทวิตเตอร์เมื่อวันที่14กรกฎาคมที่กล่าวว่า สิทธิต่างๆของจีนในทะเลตะวันออกได้ถูกกำหนดในประวัติศาสตร์เพราะจีนได้มีการเคลื่อนไหวในเขตนี้มานานตั้งแต่เมื่อ2พันปีก่อน บ่ายวันที่16กรกฎาคมในการแถลงข่าวประจำของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม โฆษกกระทรวงฯเลถิทูหั่งได้ยืนยันว่า เวียดนามมีพื้นฐานทางนิตินัยและหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อยืนยันอธิปไตยต่อหมู่เกาะหว่างซาและเจื่องซาตามกฎหมายสากล เวียดนามเห็นว่าทุกประเทศต่างมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยหน้าที่ความรับผิดชอบในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาเท่านั้นหากยังเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมของทุกประเทศในทะเลตะวันออก ในภูมิภาคและประชาคมโลก ดังนั้นเพื่อมุ่งปฏิบัติเป้าหมายนี้ต้องการความร่วมมือของทุกฝ่ายบนพื้นฐานการเคารพกฎหมายสากลและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์รวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982  ส่วนเวียดนามก็พยายามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อไปในการบรรลุเป้าหมายนี้.

ในการแถลงข่าว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังย้ำถึงนโยบายด้านการต่างประเทศ ที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง มีความหลากหลายรูปแบบและพหุภาคี ผสมผสานเข้ากับโลกอย่างกว้างลึก พัฒนาความร่วมมือกับทุกหุ้นส่วนบนพื้นฐานการสร้างประโยชน์ร่วม เคารพกฎหมายสากลเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาคและโลก ซึ่งเวียดนามหวังว่าประเทศต่างๆจะร่วมสนับสนุนทัศนะนี้ของเวียดนาม และโอกาสนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังแจ้งกำหนดการกิจกรรมด้านการต่างประเทศที่สำคัญ ของเวียดนามในเวลาข้างหน้าคือวันที่22กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีเวียดนามจะมีการเจรจาผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ โดยสองฝ่ายจะหารือมาตรการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้านและเป็นรูปธรรมเพื่อนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ร่วมระหว่างสองประเทศในโอกาสการเยือนนิวซีแลนด์ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเมื่อปี2018 ตลอดจนหารือปัญหาระหว่างประเทศที่สองฝ่ายต่างให้ความสนใจ.

Komentar