ญี่ปุ่นปล่อยเงินกู้โอดีเอแก่เวียดนามมูลค่า ๒.๕ พันล้านเหรียญสหรัฐ

Chia sẻ
( VOVworld )-ญี่ปุ่นปล่อยเงินกู้โอดีเอแก่เวียดนามมูลค่า ๒.๕ พันล้านเหรียญสหรัฐ

ญี่ปุ่นปล่อยเงินกู้โอดีเอแก่เวียดนามมูลค่า ๒.๕ พันล้านเหรียญสหรัฐ - ảnh 1
( VOVworld )-นอกรอบการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ ๒๗ และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลา ลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียน เมื่อค่ำวันที่ ๒๐ ที่ผ่านมา ท่านเหงวียน เติ้น หยุง นายกฯเวียดนามได้มีการพบปะกับนายกฯชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น โอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ที่กว้างลึก จริงใจและมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางใหญ่และมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติความตกลงระดับสูงระหว่างสองประเทศ  เห็นด้วยกับการปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมของเวียดนามในกรอบความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ การผลักดันการปฏิบัติ “ วิสัยทัศน์ความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นระยะปานกลางและระยะยาว” การพัฒนาอุตสาหกรรมประกอบกับการอบรมทรัพยากรมนุษย์ของเวียดนามตลอดจนความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์  นายกฯทั้งสองท่านได้เห็นด้วยกับการผลักดันการดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยเวียดนาม-ญี่ปุ่นภายในปี ๒๐๑๖  นายกฯชินโซ อาเบะได้แจ้งให้ทราบว่า ญี่ปุ่นจะปล่อยวงเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอรวมมูลค่า ๒ พัน ๕ร้อยล้านเหรียญสหรัฐให้แก่เวียดนามในปีงบประมาณ ๒๐๑๕เพื่อดำเนินโครงการต่างๆได้แก่ ๓โครงการทางรถรางไฟฟ้าตัวเมืองของนครโฮจิมินห์สาย ๑ ตลาดเบ๊น แถ่ง-ซ้วยเตียน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนท้าย บิ่นห์และโครงการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในนครโฮจิมินห์ นายกฯทั้งสองท่านเห็นพ้องกันที่จะขยายความร่วมมือในกรอบกองทุนสินเชื่อว่าด้วยความร่วมมือเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูงในเอเชียมูลค่า ๑ แสน  ๑ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดจนร่วมมือกันในเวทีพหุภาคีและกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด การเร่งรัดการอนุมัติและปฏิบัติข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกหรือทีพีพี  การเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอย่างรอบด้านในภูมิภาคหรืออาร์ซีอีพี  การเร่งรัดการบรรลุความตกลงในการประชุมของฝ่ายต่างๆที่ให้ภาคียานุวัติกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในเร็วๆนี้  ผู้นำทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาโลกและภูมิภาคที่ต่างให้ความสนใจ อีกทั้งย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัยโดยยึดกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลฉบับปี ๑๙๘๒เป็นหลัก การปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกอย่างเคร่งครัดและมุ่งสู่การร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว รวมถึงไม่มีปฏิบัติการทางทหารในทะเลตะวันออก .

Komentar