วันที่ 19 ตุลาคม ชาวอิตาลีและโปรตุเกสนับหมื่นคนได้ทำการชุมนุมประท้วงในประเทศเพื่อคัดค้านการปฏิบัติมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลโดยการชุมนุมประท้วงได้เป็นไปอย่างสงบที่ประเทศอิตาลีโดยกลุ่มผู้นำการชุมนุมได้เผยว่า มีประชาชน 7 หมื่นคนเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่สำนักงานตำรวจประกาศซึ่งทำให้ทางการอิตาลีต้องระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 4 พันนายเพื่อรักษาความปลอดภัยโดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตำหนิรัฐบาลว่า มาตรการรัดเข็มขัดที่ใช้นั้นไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้ แถมยังสร้างอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอีกด้วยและมีแต่สมาชิกในทางการอิตาลีเท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษและผลประโยชน์จากนโยบายนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังเตือนว่า จะปิดล้อมกรุงโรม การชุมนุมประท้วงของชาวอิตาลีเกิดขึ้นในขณะที่อิตาลีกำลังพยายามให้หลุดพ้นจากระยะแห่งการชะลอตัวที่ยืดเยื้อเป็นเวลา 2 ปีซึ่งทำให้อัตราผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นประวัติศาสตร์และสถานประกอบการนับพันแห่งต้องปิดดำเนินการซึ่งเป็นเหตุผลของปัญหาแรงงานเยาวชนที่มีฝีมือดีไปทำงานในต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน ที่ประเทศโปรตุเกส ชาวโปรตุเกสนับพันคนในกรุงลิสบอนและเมือง Porto ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคเหนือโปรตุเกสได้ชุมนุมประท้วงมาตรการปรับลดเงินเดือนและเงินบำนาญในร่างงบประมาณปี 2014 ของรัฐบาลเพื่อแลกกับการที่จะได้รับวงเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF และสภาพยุโรปหรือ EU โดยที่กรุงลิสบอน นาย Armenio Carlos หัวหน้าสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกสหรือ CGTP ได้เรียกร้องให้ชาวโปรตุเกสคัดค้านการปรับลดเงินเดือนที่ระบุในร่างงบประมาณปี 2014 พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดการชุมนุมประท้วง ณ กรุงลิสบอนในวันที่ 1 พฤศจิกายนเพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดและยุติการปฏิบัติมาตรการรัดเข็มขัด./.