ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง |
ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวของหนังสือพิมพ์โยมิอุริของญี่ปุ่น ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางได้เผยว่า เวียดนามและญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเดือนกันยายนปี1973 ในตลอด45ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้กลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในหลายด้าน โดยเฉพาะนับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียเมื่อเดือนมีนาคมปี2014 ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้มีก้าวพัฒนาที่เข้มแข็ง รอบด้านและจริงจัง
ประธานประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า จากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่ดีงามในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศจะพยายามส่งเสริมจุดแข็งของตน ผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างสองเศรษฐกิจผ่านการขยายความร่วมมือเกี่ยวกับโอดีเอ การค้าและการลงทุน เวียดนามจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นเพื่อใช้แหล่งเงินทุนโอดีเออย่างมีประสิทธิภาพและปฏิบัติกลไกความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ
เวียดนามมีความประสงค์ว่า ญี่ปุ่นจะผลักดันการลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยีใน6ด้านอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของเวียดนามในกรอบความร่วมมือระหว่างสองประเทศจนถึงปี2020และวิสัยทัศน์ปี2030คืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลการเกษตร การแปรรูปสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ การต่อเรือ สิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน การผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคืออำนวยความสะดวกและสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุนต่างชาติ รวมทั้ง นักลงทุนญี่ปุ่น
ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น แรงงาน การผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ การประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานให้แก่ความร่วมมืออย่างยั่งยืนในอนาคต
เวียดนามจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลกเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่ให้ความสนใจร่วมกันเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก.