ที่ประชุมคณะกรรมาธิการแห่งรัฐสภาครั้งที่ 35 สมัยที่ 13 แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภาและสภาประชาชน
|
(VOVworld) – เช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ได้มีการเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาครั้งที่ 35 สมัยที่ 13 ภายใต้อำนวยการของท่าน เหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาโดยที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันของร่างกฎหมายการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภาและสภาประชาชนโดยข้อกำหนดเกี่ยวกับสภาเลือกตั้งแห่งชาติคือเนื้อหาที่ถูกเน้นหารือในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนรัฐสภาได้เห็นพ้องแนวทางให้คงข้อกำหนดเกี่ยวกับสภาเลือกตั้งแห่งชาติที่ถูกระบุในร่างกฎหมายโดยสภาฯจะได้รับการจัดตั้งเมื่อประกาศวันเลือกตั้งและเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่หลังจากที่รัฐสภารับรองสมาชิกภาพผู้แทนรัฐสภา ส่วนผู้แทนของคณะกรรมาธิการกฎหมายได้แสดงความเห็นว่า ข้อดีของแนวทางนี้คือการค้ำประกันความมีเสถียรภาพ การปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง สิทธิของสภาเลือกตั้งส่วนกลางและไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสมาชิก แต่แนวทางนี้ยังไม่สะท้อนให้เห็นถึงข้อใหม่หลายข้อในการจัดการเลือกตั้ง ยังไม่สามารถสร้างกลไกที่เป็นมืออาชีพและอิสระในการจัดการเลือกตั้ง อีกทั้งขาดความคล่องตัวเมื่อเกิดปัญหาใหม่ เช่นการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภากึ่งวาระ
ในขณะเดียวกัน ผู้แทนรัฐสภาบางคนยังแสดงความเห็นว่า ไม่ควรกำหนดการปฏิบัติงานของสภาประชาชนวาระ 5 ปีเพราะจะสร้างกลไกที่ซับซ้อน ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายปฏิรูประเบียบราชการ สำหรับข้อกำหนดเกี่ยวกับโครงสร้าง สัดส่วน อัตราผู้แทนรัฐสภาสตรีและชนกลุ่มน้อย บรรดาผู้แทนรัฐสภาหลายคนได้แสดงความเห็นว่า การกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมในกฎหมายคือสิ่งที่ยากที่จะปฏิบัติได้ นาย ฝุ่งก๊วกเหียน หัวหน้าคณะกรรมาธิการการเงิน-งบประมาณแห่งรัฐสภาได้แสดงความเห็นว่า“ในสมัยที่ผ่านมา พวกเราได้กำหนดว่า อัตราผู้แทนรัฐสภาสตรีอยู่ที่ร้อยละ 30-35 แต่ในทางเป็นจริงไม่สามารถบรรลุอัตรานี้ได้แต่กฎหมายได้ระบุว่า อัตราผู้แทนรัฐสภาสตรีอยู่ที่กว่าร้อยละ 30 ซึ่งถ้าไม่สามารถบรรลุได้ การเลือกตั้งนี้จะได้รับการรับรองหรือไม่ ดังนั้นผมคิดว่า ควรกำหนดว่า ในแต่ละสมัยควรบรรลุอัตราที่เหมาะสม แต่อัตรานี้ต้องขึ้นอยู่กับระดับความไว้วางใจของผู้แทนรัฐสภาในเขตที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง”
บรรดาผู้แทนรัฐสภาหลายคนยังแสดงความเห็นว่า ถ้าหากจำเป็นที่ต้องจัดการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภากึ่งวาระ รัฐสภาจะเป็นผู้ตัดสินใจและสามารถเลือกสภาเลือกตั้งแห่งชาติให้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภา สำหรับปัญหานี้ ท่าน เหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาได้แสดงความเห็นว่า“ในทางเป็นจริง ตั้งแต่การประชุมรัฐสภาสมัยที่ 1 มาจนถึงการประชุมรัฐสภาสมัยที่ 13 ยังไม่เคยมีการจัดการเลือกตั้งรัฐสภากึ่งวาระและถ้าหากขาดผู้แทนรัฐสภา 5-7 คน รัฐสภาก็ยังคงปฏิบัติงานได้ตามปกติ รวมทั้งในระดับสภาประชาชน ยกเว้นกรณีรัฐสภาอนุญาตให้แยกหรือผนวกรวมจังหวัดก็จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ รัฐสภาเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะจัดการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่แล้วก็คำนึงถึงการจัดตั้งสภา เมื่อตัดสินใจจัดการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภาเพิ่มเติม ต้องจัดตั้งสภา ดังนั้น บรรดาผู้แทนรัฐสภาต้องพยายามรายงานต่อที่ประชุมรัฐสภาและเข้าใจเนื้อหานี้ตามเจตนารมณ์ดังกล่าว”
ส่วนในช่วงบ่าย ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายการทำประชาพิจารณ์ เนื้อหาที่บรรดาผู้แทนรัฐสภาเน้นหารือคือข้อกำหนดเกี่ยวกับปัญหาเพื่อจัดการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ขอบเขตการจัดการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนและผลของงานนี้ บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้เห็นพ้องกับแนวทางที่ว่า ต้องระบุข้อกำหนดทั่วไป หลักการปัญหาที่สามารถนำมาทำประชาพิจารณ์ เช่นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขและเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ สิทธิมนุษยชน สิทธิและหน้าที่ขั้นพื้นฐานของพลเมือง สำหรับขอบเขตการทำประชาพิจารณ์ คณะกรรมาธิการกฎหมายแห่งรัฐสภาได้เห็นพ้องกับข้อกำหนดที่ว่า การทำประชาพิจารณ์ต้องจะมีขึ้นในทั่วประเทศ./.