คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาเวียดนามอภิปรายร่างกฏหมายฉบับต่างๆ (Photo:Internet)

(VOVWorld) – ในกรอบของการประชุมครั้งที่๑๖ เช้าวันที่๑๙มีนาคม  คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาเวียดนามได้อภิปรายร่างกฏหมายการรับเรื่องร้องทุกข์ฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมเพื่อยื่นเสนอให้รัฐสภาพิจารณาในการประชุมรัฐสภาครั้งที่๕ สมัยที่๑๓ที่จะถึงนี้ซึ่งคณะกรรมาธิการเห็นด้วยกับความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้กฏหมายฉบับนี้ อย่างไรก็ดี เนื้อหา วิธีการรับเรื่องร้องทุกข์ตามเอกสารกฏหมายฉบับนี้และข้อกำหนดของกฏหมายฉบับอื่นๆยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ที่เป็นจริงได้ ข้อกำหนดของร่างกฏหมายฉบับนี้ยังไม่ตอบสนองความต้องการของการเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้านของการรับเรื่องการร้องทุกข์ และขาดความชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบและการประสานงานระหว่างสำนักงานและองค์กร รวมทั้งรูปแบบสำนักงานรับเรื่องร้องทุกข์ตั้งแต่ส่วนกลางถึงท้องถิ่น บรรดาผู้แทนยังได้เสนอให้มีรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์รับเรื่องร้องทุกข์ในปัจจุบัน ประสบการณ์ของประเทศต่างๆ และ ความเป็นไปได้ของการปฏิบัติหลังจากที่กฏหมายฉบับนี้ได้รับการประกาศใช้.  ก่อนหน้านั้น บ่ายวันที่๑๘มีนาคม คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาเวียดนามได้อภิปรายและแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฏหมายภาษีเงินได้สถานประกอบการและร่างกฏหมายปฏิบัติมาตรการประหยัดและต่อต้านการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม  สำหรับร่างกฏหมายภาษีเงินได้สถานประกอบการ สมาชิกคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับแนวทางลดภาษีเพื่อรักษาขีดความสามารถในการดึงดูดการลงทุนและเสนอให้กำหนดขั้นตอนการลดภาษีจนถึงปี๒๐๒๐ในกฏหมายให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาษี ควรเสริมนโยบายให้สิทธิพิเศษด้านภาษีต่อองค์กรการเงิน การเพาะปลูก และแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร ป่าไม้สัตว์น้ำ การทำนาเกลือ ผลิตพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ ลงทุนเพื่อขยายเป้าหมายที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีให้สอดคล้องกับนโยบายให้สิทธิพิเศษที่ระบุในกฏหมายวิชาชีพ  เกี่ยวกับร่างกฏหมายปฏิบัติมาตรการประหยัดและต่อต้านการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม ที่ประชุมเห็นว่า ควรเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ๆ และวิเคราะห์ปัญหาต่างๆให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ที่ประชุมยังอนุมัติกฤษฎีกาว่าด้วยเงินตราต่างประเทศฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมโดยมีเนื้อหาสำคัญ๔ประการที่เกี่ยวข้องถึงการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ  การกู้เงินและชำระเงินที่กู้จากต่างประเทศ  การลงทุนโดยทางอ้อมจากต่างประเทศเข้าเวียดนามและการป้องกันไม่ให้ใช้เงินดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักในประเทศ./.