(VOVworld)- ในการประชุมเมื่อเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรายงานที่จะชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของร่างกฎหมายการสื่อสารมวลชนฉบับแก้ไข คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาสมัยที่ 13 ได้เห็นด้วยกับเนื้อหาต่างๆในร่างรายงานฯ ส่วนเนื้อหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากสมาชิกคณะกรรมาธิการฯคือการระบุเนื้อหาการบริหารเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ไว้ในกฏหมาย นาย Ksor Phuoc ประธานสภาชาติพันธุ์แห่งรัฐสภาเผยว่า ถ้าหากกฎหมายการสื่อสารมวลชนไม่ควบคุมรูปแบบข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารมวลชน เช่น เว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในสถานการณ์ที่เป็นจริงได้         “ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมีสามรูปแบบ ประกอบด้วย องค์การตามที่ได้ระบุในกฎหมายว่า มีสิทธิ์ก่อตั้งองค์การสื่อสารมวลชน สองคือภาคเอกชน blog ของบุคคลและเว็บไซต์ภายในประเทศและสามคือเว็บไซต์นอกประเทศ ปัจจุบันนี้ อย่างน้อยรัฐก็ต้องควบคุมเว็บไซต์ภายในประเทศให้ได้”

ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหานี้ นายเหงียนซิงหุ่งห์ ประธานรัฐสภาเผยว่า รัฐธรรนูญปี 2013 ได้ระบุเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของการสื่อสารมวลชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล ดังนั้นในกฎหมายฉบันนี้ต้องระบุเกี่ยวกับรูปแบบข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารมวลชน เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์และเว็บไซต์เพื่อมีมติเกี่ยวกับการบริหารของรัฐในด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรม

ที่ประชุม คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภายังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรายงานชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของร่างกฎหมายการปกป้อง ดูแลและให้การศึกษาต่อเด็กๆ ฉบับแก้ไข โดยผู้แทนหลายคนได้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนชื่อเป็น “กฎหมายเกี่ยวกับเด็ก” ซึ่งจะสะท้อนเนื้อหาที่สมบูรณ์ของกฎหมายฉบับนี้

ตามระเบียบวาระการประชุม บ่ายวันที่ 18 กุมภาพันธ์ คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้หารือถึงร่างรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของหัวหน้าสถาบันอัยการประชาชนสูงสุดวาระปี 2011 – 2016 และเอกสารชี้แจงของหัวหน้าสถาบันอัยการประชาชนสูงสุดเกี่ยวกับการร้องขอให้เพิ่มจำนวนอัยการระดับสูงให้แก่หน่วยงานอัยการเวียดนาม.