ภาพการประชุม |
ที่ประชุมพิจารณาร่างมติประกาศใช้หลักเกณฑ์การทำงานต้นแบบของสภาชนเผ่าและคณะกรรมาธิการต่างๆของสภาแห่งชาติ พิจารณาการจัดตั้งหรือยุบสำนักงานสอบสวนคดีความผิดทางอาญาในสังกัดของกองทัพ
ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีการวางแผน 2 แนวทางสำหรับการจัดการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 2 สมัยที่ 15 โดยแนวทางที่ 1 คือหากสถานการณ์การระบาดยังคงน่ากังวล การประชุมสภาแห่งชาติจะจัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ส่วนทางเลือกที่ 2 คือถ้าหากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี สภาแห่งชาติจะจัดการประชุมออนไลน์ควบคู่กับการจัดประชุมโดยตรง ณ อาคารสภาแห่งชาติ และจะแบ่งการประชุมออกเป็นสองระยะ
ในการหารือในที่ประชุม คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้เสนอให้สำนักงานต่างๆเตรียมและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเนื้อหา วิธีการดำเนินการและเงื่อนไขต่างๆเพื่อค้ำประกันให้การเปิดประชุมมีขึ้นตามกำหนด ค้ำประกันคุณภาพ ความคืบหน้าและความปลอดภัยในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด สำหรับเรื่องนี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เสนอว่า
“พวกเราเตรียมทั้งแผนการจัดการประชุมโดยตรงและการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ การตั้งและตอบกระทู้ถามยังคงได้รับการพิจารณา โดยเฉพาะปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน ปัญหาเร่งด่วนและปัญหาที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ในสัปดาห์แรก สามารถประชุมออนไลน์ได้เหมือนที่เคยทำ และจะประชุมโดยตรงในระยะที่สองเพื่อให้การลงคะแนนและการตั้งกระทู้ถามมีความสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าหากการแพร่ระบาดมีความซับซ้อนมากขึ้น พวกเราก็สามารถจัดการประชุมออนไลน์ทั้งหมดได้”.
ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์การแก้ไข ตอบข้อเสนอของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผลการแก้ไขข้อเสนอ การฟ้องร้องและเปิดโปงของพลเมืองที่ส่งถึงสภาแห่งชาติ อีกทั้งอนุมัติข้อกำหนดการปฏิบัติงานของสภาชาติพันธุ์และคณะกรรมาธิการต่างๆของสภาแห่งชาติ.