ขยายเวลาการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข

Chia sẻ
( VOVworld )-ขยายเวลาการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข

ขยายเวลาการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข - ảnh 1
ท่านอวงจูลิวรองประธานรัฐสภาตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

( VOVworld )-คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ฉบับแก้ไขได้มีหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติมติของรัฐสภาว่าด้วยการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขต่อไป โดยขยายเวลาการทำประชาพิจารณ์ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายนนี้ก่อนที่จะเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาอนุมัติผ่าน  ซึ่งเมื่อก่อนนี้ กำหนดการทำประชาพิจารณ์คือ ๓ เดือนโดยจะสิ้นสุดลงในวันที่ ๓๑ มีนาคมนี้  คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ฉบับแก้ไขยังเรียกร้องให้พรรคทุกสาขา ทางการทุกระดับและหน่วยงานต่างๆอำนวยความสะดวกให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นและทัศนะคติต่อร่างรัฐธรรมนูญ  ส่วนการประชาสัมพันธ์ต้องวิเคราะห์เนื้อหาต่างๆอย่างมีเหตุมีผลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้อง  อีกทั้งวิเคราะห์การกระทำที่ฉกฉวยโอกาสการทำประชาพิจารณ์เพื่อเผยแพร่ทัศนะคติที่ผิดพลาดที่ก่อความแตกแยกกลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติ  ในกว่า ๒ เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานและองค์การทุกระดับของนครเกิ่นเทอได้ทำการรับฟังความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่บริหาร สมาชิกพรรคและประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข โดยที่ประชุมเมื่อเร็วๆนี้ ณ นครเกิ่นเทอ ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมได้เห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเดินหน้าผสมผสานเข้ากับโลก  นายเจิ่นแถ่งเหงวียบ นายกสมาคมทหารผ่านศึกนครเกิ่น เทอ ได้แสดงความคิดเห็นต่อหน้าที่ของกองกำลังติดอาวุธว่า  “ ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ว่า ทหารไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง  กองทัพแห่งชาติได้รับการก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องระบอบการเมืองของประเทศใดประเทศหนึ่ง หากไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง กองทัพจะปกป้องใครเล่า ทั้งนี้หมายถึงว่า กองทัพประชาชนเวียดนามต้องปกป้องระบอบสังคมนิยมและพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

ขยายเวลาการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข - ảnh 2
ฮานอยประชุมรับฟังความคิดเห้นจากประชาชน

จังหวัดบิ่งเซืองทางภาคใต้ของประเทศกำลังจัดทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขไม่ว่าจะในหมู่เจ้าหน้าที่บริหาร สมาชิกพรรคและประชาชน  นายเหงวียนแถก ชาวบิ่งห์ เซือง แสดงความสนับสนุนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒  โดยเห็นว่า  “ รัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ได้มีประสิทธิภาพในทุกด้านทำให้การบริหารประเทศพัฒนาอย่างก้าวหน้า แต่ในยุคผสมผสานเข้ากับโลกและดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้ทันกับแนวโน้มของยุคสมัย ”  ประชาชนบิ่งห์เซืองทุกหมู่เหล่าต่างเห็นว่า การนำของพรรคในทุกด้านมีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน

ปัญหาชนเผ่าและงานด้านชนเผ่าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข  โดยเมื่อเช้าวันที่ ๗ เดือนนี้ ณ กรุงฮานอย คณะกรรมการชนเผ่าได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งนี้ได้ขยายข้อต่างๆเกี่ยวกับชนเผ่าและสะท้อนปัญหาชนเผ่าในทุกแง่มุมอย่างสมบูรณ์ แต่จำเป็นต้องกำหนดฐานะยุทธศาสตร์ของปัญหาชนเผ่าและความสามัคคีชนในชาติ สิทธิและหน้าที่ของทุกชนชาติให้มีความเสมอภาคกัน  หลักการณ์และนโยบายแก้ไขปัญหาชนเผ่า การส่งเสริมพลังภายในของพวกเขา  นายหลู่ วันแกว อดีตรองประธานคณะกรรมการชนเผ่าได้กล่าวถึงนโยบายชนเผ่าว่า   “ ผมขอเสนอว่า ชนชาติต่างๆในครอบครัวใหญ่เวียดนามต้องได้รับความเสมอภาคกัน สามัคคี เคารพและช่วยกันพัฒนา ซึ่งหลักการณ์พื้นฐานนี้ต้องได้ระบุในนโยบายเกี่ยวกับชนเผ่าของพรรคและรัฐและต้องได้รับการปฏิบัติอย่างดี  มาตรา ๕ ต้องระบุชัดถึงสิทธิและหน้าที่ของชนชาติต่างๆ  ชนชาติต่างๆที่อยู่ในแผ่นดินเวียดนามต้องปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิอย่างเสมอภาคกัน  หากรัฐธรรมนูญระบุเช่นนี้ เจ้าหน้าที่และชนเผ่าต่างๆจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ซึ่งจะส่งผลในทางที่ดีและยกระดับความรับผิดชอบต่อมาตุภูมิมากขึ้น

เช้าวันเดียวกัน ณ กรุงฮานอย กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนามได้จัดการประชุมวีดีโอ คอนเฟเร้นซ์เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขและร่างกฏหมายที่ดินฉบับแก้ไข ในการนี้ ท่านHuỳnh Vĩnh Ái รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนามได้เผยว่า จนถึงปัจจุบัน ทางกระทรวงได้รวบรวมรายงานความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ๔๐ฉบับ ผู้แทนส่วนใหญ่เห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญได้แปรทัศนะของพรรคในหลักนโยบายทางการเมืองและเอกสารสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่๑๑เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ให้เป็นรูปธรรม ร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีเนื้อหาใหม่ๆโดยย้ำถึงปัจจัยประชาธิปไตยและบทบาทของประชาชน  นายLê Văn Duyรองหัวหน้าสำนักงานตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนามประจำนครดานังได้กล่าวว่า“จากความคิดเห็นของหน่วยงาน พวกเรายืนยันว่า  การที่พรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้นำรัฐและสังคมเป็นสิ่งถูกต้องและจำเป็น มาตราที่๔แสดงให้เห็นถึงแนวคิดเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้นบรรดาผู้แทนเห็นว่า การเพิ่มเติมสิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็น ปัญหาอยู่ที่ว่า ต้องทำความกระจ่างแจ้งระเบียบการเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบกิจกรรมของผู้นำพรรคและระเบียบการเพื่อให้พรรครับผิดชอบเกี่ยวกับการตัดสินใจของตนต่อประชาชน”./.

 


Komentar