นาย Christian Manhart หัวหน้าสำนักงาน UNESCO ประจำเวียดนามได้มอบหนังสือดังกล่าวให้แก่ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนามและตัวแทนของ11จังหวัด(VNA)
|
ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ประธานประเทศเหงียนซวนฟุ๊ก ได้ย้ำว่า การรับรองดังกล่าวเป็นการยืนยันชื่อเสียงของเวียดนามช่วยให้เพื่อนมิตรในทั่วโลกรับทราบเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม มีส่วนร่วมดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้น ท้องถิ่นที่มีมรดกนี้ควรมีโครงการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างลึก มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันความผูกพัน ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์และความรับผิดชอบของชาวท้องถิ่นในการสานต่อและเผยแพร่ในชุมชน ตลอดจนให้ความสนใจและอำนวยความสะดวกให้ศิลปินสามารถสอนการร้องเพลงทำนองแทนในชุมชน สะสมและเก็บรักษาเอกสารเกี่ยวกับการร้องเพลงแทนโบราณ
การร้องเพลงทำนองแทนนพิธีกรรมที่ขาดมิได้ในชีวิตทางจิตใจของชนกลุ่มน้อยเผ่าไต หนุ่งและไทใน 11 จังหวัดภาคเหนือ คือ เตวียนกวาง บั๊กยาง บั๊กก๋าน กาวบั่ง ห่ายาง หลางเซิน กว๋างนิง ท้ายเงวียน เดี๋ยนเบียน ลายโจวและลาวกาย
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปี 2019 ในการประชุมของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ปี2003 ครั้งที่ 14 ของ UNESCO ณ กรุง Bogotá ประเทศโคลัมเบีย UNESCO ได้รับรอง “การแสดงทำนองพื้นเมือง “แทน” ของชนกลุ่มน้อยเผ่าไต หนุ่งและไท” เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติอย่างเป็นทางการ
ส่วนในเช้าวันที่ 4 กันยายน ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก ได้ไปจุดธูปรำลึกถึงประธานโฮจิมนห์ในบ้าน หน่าเนือ ในเขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์แห่งชาติพิเศษ เตินจ่าว ซึ่งเป็นบ้านที่ประธานโฮจิมินห์อาศัยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคนถึงวันที่ 22 สิงหาคมปี 1945 ชี้นำการลุกขึ้นสู้เดือนสิงหาคมเพื่อช่วงชิงเอกราช นอกจากนี้ ประธานประเทศเหงียนซวนฟุ๊ก ได้ไปจุดธูปที่ศาลา เตินจ่าว ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสมัชชาใหญ่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันเป็นสภาแห่งชาติเวียดนามในวันที่ 16 สิงหาคมปี 1945
ส่วนในเช้าวันที่ 4 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมของจังหวัดเตวียนกวาง คณะกรรมการจังหวัดฯ พร้อมกับตัวแทนของ 11 จังหวัดที่มีการร้องเพลงนำนองแทนได้จัดการประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่มีมรดกการร้องเพลงทำนองแทนประจำปี 2022.