(VOVworld) –   ในวันที่๒ของการสัมมนาในหัวข้อ“ทะเลตะวันออกและเอเซียแปซีฟิกในยุคเปลี่ยนผ่าน การแสวงหามาตรการแก้ไขข้อพิพาท”ที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศหรือ CSIS จัดขึ้นณ กรุงวอชิงตัน นายJoe Libermanวุฒิสมาชิก ประธานคณะกรรมการความมั่นคงภายในและปัญหาต่างๆของรัฐบาลสหรัฐได้กล่าวปราศรัยแสดงความเห็นว่า ความตึงเครียดในทะเลตะวันออกถือเป็นการลองหยั่งเชิงว่า จีนจะปฏิบัติต่อประเทศเพื่อนบ้านเช่นไรเมื่อตนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจซึ่งนโยบายของจีนในทะเลตะวันออกได้แสดงให้เห็นถึงการขาดพื้นฐานที่ชัดเจนและไม่ยึดมั่นตามกฏหมายสากลจน สร้างความระแวงสงสัยและอาจจะนำไปสู่การวางแผนที่ผิดพลาดจนอาจจะทำให้จีนถูกโดดเดี่ยวจากภูมิภาคและโลก  วุฒิสมาชิกJoe Liberman เตือนว่า “ผมรู้สึกเป็นห่วงต่อการพฤติกรรมของจีนในทะเลตะวันออก ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับอธิปไตยของจีนในกรอบที่กว้างใหญ่เกินไปในทะเลตะวันออกได้สร้างความเป็นห่วงในภูมิภาค และทำให้ประเทศอื่นๆต้องมีปฏิบัติการ เช่น เวียดนามและฟิลิปปีนส์ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับอธิปไตยซึ่งเเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมีความประสงค์ว่า จีนต้องยุติการกระทำของตนทันทีซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดการพิพาทนี้ได้” บรรดานักวิชาการและนักวิจัยในที่สัมมนาได้ชี้ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้การพิพาทในทะเลตะวันออกขยายตัว รวมทั้งปัญหาการพิพาทที่ยังคั่งค้างอยู่ การพิพาทพหุภาคี ความไม่ชัดเจนในแถลงการณ์เกี่ยวกับอธิไตย การขาดความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆและการขาดนโยบายที่โปร่งใสพร้อมทั้งเสนอให้จัดตั้งช่องทางสนทนา แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลเป็นระจำ จัดตั้งระเบียบความร่วมมือ จัดตั้งฝ่ายที่กลางหรือระเบียบการอนุญาโตตุลาการเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆเพื่อแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออก วุฒิสมาชิกJoe Liberman เห็นว่า หนึ่งในปฏิบัติการสำคัญที่จะมีส่วนร่วมแก้ไขความตึงเครียดในทะเลตะวันออกคือ สหรัฐควรอนุมัติอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลโดยเร็ว   ส่วนดร.Bonnie Glasser ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเอเชียของCSIS กล่าวว่า“จีนควรเอาใจเขาไปใส่ใจเราและไม่ควรมองข้ามความห่วงใยของประเทศต่างๆซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อจีน”  ที่สัมมนาเห็นว่า ในเวลาที่ผ่านมาได้มีระเบียบการประสาน และรูปแบบความร่วมมือต่างๆ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าหากประเทศต่างๆในภูมิภาค โดยเฉพาะ ประเทศมหาอำนาจขาดเจตนาที่ดีและไม่สามารถสร้างความไว้วางใจกันได้ก็ยากที่จะแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกอย่างเด็ดขาดได้./.

Minh Hiển ผู้สื่อข่าวสถานีิวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐ