ภาพการสัมมนา
|
(VOVworld) – “การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเทียมในทะเลตะวันออกและผลกระทบด้านลบต่อสันติภาพ ความมั่นคง เศรษฐกิจและการค้าของภูมิภาค” นี่คือหัวข้อของการสัมมนานานาชาติที่จัดขึ้นที่นครโฮจิมินห์เมื่อเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม โดยมีนักวิชาการและคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันวิจัยต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น สหพันธรัฐรัสเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์และเบลเยี่ยมเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ในนัดแรกของการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “มุมมองทางนิตินัยที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเกาะและสิ่งปลูกสร้างเทียมตามข้อต่างๆของอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982” ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การก่อสร้างเกาะเทียมของจีนในหมู่เกาะเจื่องซาหรือเสปรตลี่ย์ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของเวียดนามและยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวของจีนนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 พร้อมทั้งตอบกลับคำมั่นทางการเมืองระหว่างเวียดนามกับจีนและอาเซียนกับจีน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสันติภาพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การเดินเรือและการบินอย่างเสรี ก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการปะทะด้วยอาวุธ ในการนี้ ดร.โงหิวเฟือก จากมหาวิทยาลัยกฎหมายนครโฮจิมินห์วิเคราะห์ว่า “ผมขอย้ำถึงเป้าหมายของจีนในการก่อสร้างเกาะเทียมว่า เป็นการปฏิบัติตามแผนการรวม 5 ขั้นตอน คือ โจมตี บุคยึด ก่อสร้างเกาะเทียม เรียกร้อง 12 ไมล์ทะเล ส่งคนเข้ามาพักอาศัยเพื่อออกมาเรียกร้องต่อเขตทะเลอื่นๆและเชื่อมโยงเกาะต่างๆที่เป็นแนวหน้าจากเกาะไหหนานไปยังหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลล์และเจื่องซาหรือเสปรตลี่ย์เพื่อควบคุมทะเลตะวันออกทั้งหมดทั้งในการเดินเรือและเศรษฐกิจทางทะเล”
และในนัดที่ 2 ของการสัมมนาตามหัวข้อ “ผลกระทบในทางลบจากการก่อสร้างเกาะและสิ่งปลูกสร้างเทียมต่อสันติภาพ ความมมั่นคง เศรษฐกอจและการค้าของภูมิภาค” ได้มีการหารือถึงผลกระทบจากการก่อสร้างเกาะเทียมของจีนในทะเลตะวันออกและผลกระทบในทางลบต่อสันติภาพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก.