การประชุมไอพียูครั้งที่๑๓๒ผลักดันคำมั่นทางการเมืองเพื่อบรรลุเอ็มดีจีเอสในการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก(Photo: Baomoi.com)

(VOVworld) –  “สิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงสาธารณสุข บทบาทของรัฐสภาในการแก้ไขความท้าทายที่สำคัญเพื่อรักษาสุขภาพของสตรีและเด็ก”เป็นหัวข้ออภิปรายในการประชุมของคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ที่จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย ในกรอบการประชุมไอพียูครั้งที่๑๓๒ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ได้รับการอนุมัติในมติของการประชุมไอพียูครั้งที่๑๒๖เมื่อปี๒๐๑๒โดยเน้นตีความบทบาทของรัฐสภาในการแก้ไขความท้าทายขั้นพื้นฐานเพื่อดูแลสุขภาพสตรีและเด็ก บรรดาผู้แทนเน้นถึงความสำคัญของการผลักดันการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ระดมแหล่งการเงินและมีข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการดูแลแม่และเด็ก นางลิบบี ดาวีแอส สส.แคนาดากล่าวว่า“ในฐานะเป็นสส. พวกเราต้องเข้าใจความสำคัญของการดูแลสุขภาพแม่และเด็กเพื่อมีข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายเกี่ยวกับปัญหานี้ หวังว่า สส.ไอพียูจะทำงานอย่างกระตือรือร้นเพื่อให้สตรีและเด็กทั่วโลก โดยเฉพาะ ผู้ด้อยโอกาสได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด”

เพื่อผลักดันการปฏิบัติมติ๑๒๖ของไอพียู ในที่ประชุมครั้งนี้ คณะผู้แทนเวียดนามได้เสนอให้สส.ประเทศต่างๆให้ความสำคัญต่อการประกาศใช้ แก้ไข เพิ่มเติมเอกสารที่เกี่ยวข้องถึงการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ สุขภาพของแม่และเด็ก  ผลักดันการตรวจสอบการปฏิบัติเอกสารกฎหมายและประกาศใช้มาตรการและนโยบายแบบบูรณาการเพื่อผลักดันการดูแลสุขภาพของแม่และเด็ก เวียดนามยังเห็นว่า ควรให้ความสำคัญต่อการยกระดับทักษะให้แก่บรรดาสส. ขยายการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศต่างๆเกี่ยวกับการร่างกฎหมาย การตรวจสอบและจัดตั้งเครือข่ายดูแลสุขภาพแม่และเด็กระดับภูมิและโลก

ในวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการเกี่ยวกับสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเงินและการค้าจะอนุมัติมติเกี่ยวกับสงครามทางอินเตอร์เน็ตและการบริหารจัดการแหล่งน้ำก่อนที่จะยื่นเสนอต่อการประชุมครบองค์ของสมัชชาใหญ่ไอพียู.

ในการนี้ คณะผู้แทนเวียดนามได้แนะนำผลงานในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติในการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการร่างกฎหมาย การตรวจสอบ และจัดตั้งเครือข่ายดูแลสุขภาพระดับภูมิภาคและโลก

นางฮอน โรซาลิน เจ สมิธ สส.ของประเทศเซียร์ราลีโอนได้ชื่นชมผลงานในการดูแลสุขภาพสตรีและเด็กซึ่งแสดงให้เห็นจากการเชิดชูบทบาทของสตรีในสังคมซึ่งสิ่งนี้มิใช่ประเทศใดก็สามารถทำได้ และกล่าวว่า“เวียดนามได้ปฏิบัติงานด้านความเสมอภาคทางเพศเป็นอย่างดี สตรีเวียดนามหลายคนดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐสภา เช่น รองประธานรัฐสภา และเธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสส.สตรีไอพียู เวียดนามกำลังเดินมาถูกทางและจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษโดยเร็ว”

ส่วนนางเอแลน ปรินส์ สส.ประเทศแอฟริกาใต้เห็นว่า สหประชาชาติได้ชื่นชมเวียดนามว่า เป็นประเทศเดินหน้าในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษ  รวมทั้งผลงานในการดูแลสุขภาพสตรีและเด็กซึ่งเป็นโอกาสเพื่อประเทศต่างๆเรียนรู้ประสบการณ์ และกล่าวว่า “ในประเทศแอฟริกาใต้ พวกเราได้ปฏิบัตินโยบายดูแลสุขภาพสตรีและเด็ก โดยเฉพาะ ผู้ป่วยเอสด์ พวกเราให้ความสนใจถึงการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยมาตรการที่เป็นรูปธรรม ผ่านฟอรั่มต่างๆและการประชุมใหญ่ๆเช่นนี้  แอฟริกาใต้จะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเวียดนาม”./.