การประชุมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่นครั้งที่ 22
(Photo asean2019.go.th)
|
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่นครั้งที่ 22 ณ ประเทศไทยในบ่ายวันที่ 4 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กได้แสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล การรับมือภัยธรรมชาติ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การแก้ไขปัญหาขยะ สาธารณสุขเพื่อดูแลสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุ พลังงานสะอาดและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในแม่โขง เป็นต้น โดยชื่นชมความช่วยเหลือผ่านกองทุนผสมผสานอาเซียน – ญี่ปุ่น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การพบปะในระดับประชาชนและสถานประกอบการ สำหรับสถานการณ์โลกและภูมิภาค นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงทัศนะของอาเซียนเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาทะเลตะวันออกและคาบสมุทรเกาหลี
นายกรัฐมนตรี อาเบะ ชินโซ ได้สนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในทุกด้านกับอาเซียน และย้ำว่า อาเซียนและญี่ปุ่นควรพยายามปรับปรุงระบบการค้าพหุภาคีที่เสรีและเปิดกว้าง ยุติธรรมและให้ความเคารพกฎหมาย พร้อมทั้งชื่นชมความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรืออาร์ซีอีพี นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังสนับสนุนจุดยืนของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก โดยยืนยันบทบาทสำคัญของการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและนิตินัย ให้ความเคารพกฎหมายสากลและ UNCLOS ปี 1982 ใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการทางทหารหรือมีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวเพื่อทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนมากขึ้น พยายามจัดทำซีโอซีให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
หลังการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่นครั้งที่ 22 เกี่ยวกับการเชื่อมโยง.