รองนายกรัฐมนตรีจิ่งดิ่งหยุงกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (VGP)

ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีจิ่งดิ่งหยุงได้ยืนยันว่า เวียดนามถือความสำเร็จของสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีคือความสำเร็จของสถานประกอบการภายในประเทศ พร้อมทั้งเผยว่า อนาคตความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ความพยายามฟันฝ่าอุปสรรค ความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ของนักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศ และยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อเงินลงทุนจากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี“จากเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้ากับสาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 เวียดนามมีความประสงค์ว่า จะสร้างความสมดุลด้านการค้าและสาธารณรัฐเกาหลีจะอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าเกษตร สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่มีจุดแข็งของเวียดนาม เช่น ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องเฟอร์นิเจอร์และยางพาราในการเจาะตลาดสาธารณรัฐเกาหลี ส่วนในทางกลับกัน เวียดนามก็พร้อมส่งเสริมการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของสาธารณรัฐเกาหลี”

ปัจจุบัน เวียดนามได้ดึงดูดสถานประกอบการเอฟดีไอกว่า 2 หมื่น 9 พันแห่งจาก 130 ประเทศและดินแดนให้เข้ามาลงทุนในเวียดนาม รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนประมาณ 3 แสน 5 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยมีเครือบริษัทใหญ่ๆของสาธารณรัฐเกาหลี เช่น Samsung, LG และ Hyundai ที่กำลังลงทุนประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม.