ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ กล่าวปราศรัยในการประชุม (VNA) |
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ระลอกที่ 4 ด้วยเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เดลตาได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคม ถึงแม้ในช่วงปลายปี 2021 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่น่ายินดีแต่เศรษฐกิจเวียดนามยังคงต้องรับมือความท้าทายต่างๆ การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2021 คาดว่าจะบรรลุร้อยละ 2.58 ในขณะที่การผลิต ประกอบธุรกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานจะยังคงได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมในระยะสั้นและระยะกลาง ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ระบุว่า “จากความต้องการที่เร่งด่วนของประเทศ ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของประเทศเวียดนาม คณะกรรมการสามัญแห่งสภาแห่งชาติได้ตัดสินใจจัดการประชุมวิสามัญครั้งแรกของสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 เพื่อพิจารณาและตัดสินใจปัญหาสำคัญๆและเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ สังคม การเงินและงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมได้อย่างทันการณ์”
ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เผยว่า ในการประชุมวิสามัญครั้งนี้ สภาแห่งชาติจะพิจารณาอนุมัติประเด็นที่สำคัญ 4 ประเด็น ซึ่งก่อนอื่นคือพิจารณาอนุมัติมติเกี่ยวกับนโยบายปีงบประมาณและการเงินเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม “มติฉบับนี้มีความหมายสำคัญพิเศษเพื่อรับมือวิกฤตโรคโควิด-19 เพื่อแก้ไขผลเสียหาย ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างยั่งยืน ฟื้นฟูตลาดแรงงาน แก้ไขปัญหาด้านสวัสดิการและสวัสดิภาพทางสังคม เป็นนโยบายเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แผนการการเงิน แผนการกู้เงินและชำระหนี้สาธารณะ แผนการลงทุนภาครัฐในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025”
ภาพการประชุม (VNA) |
สภาแห่งชาติจะพิจารณาอนุมัติมติบางฉบับ เช่น แนวทางการลงทุนก่อสร้างถนนไฮเวย์เหนือจรดใต้ทิศตะวันออกในช่วง 2021-2025 ที่แบ่งเป็น 12 ระยะ รวมเงินลงทุนกว่า 146 ล้านล้านด่ง ซึ่งมีส่วนร่วมผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ มีส่วนร่วมต่อการฟื้นฟูและขยายตัวของเศรษฐกิจ ขยายผลและเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆ
ที่ประชุมยังพิจารณาและอนุมัติร่างกฎหมายฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมต่างๆ เช่น กฎหมายลงทุนภาครัฐ กฎหมายการลงทุนตามรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน กฎหมายการประมูล กฎหมายไฟฟ้าและกฎหมายสถานประกอบการ เป็นต้น อนุมัติมติทดลองกลไกนโยบายเฉพาะกิจเพื่อพัฒนานครเกิ่นเทอให้เป็นศูนย์กลางแห่งภูมิภาค เป็นเขตชีวมณฑล ทันสมัยและเป็นศูนย์กลางของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งนี้ รัฐบาลได้ส่งรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในปัจจุบันและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
ส่วนในช่วงบ่าย ผู้แทนสภาแห่งชาติจะหารือตามหน่วยเกี่ยวกับร่างมติว่าด้วยนโยบายปีงบประมาณและการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการพื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม
สำหรับวงเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม นาย หว่างวันเกื่อง ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้แสดงความคิดเห็นว่า “แหล่งเงินทุนที่สนับสนุนสถานประกอบการคือแหล่งเงินทุนสินเชื่อ ดังนั้น กลไกการเชื่อมโยงระหว่างงบประมาณและการเงินจะเป็นนโยบายที่สมบูรณ์ที่ช่วยให้ไม่ต้องใช้งบประมาณมากแต่สถานประกอบการยังคงได้รับประโยชน์จากแหล่งพลังและแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนา ถ้าหากมีการช่วยเหลืออย่างถูกต้องในด้านการผลิตและประกอบธุรกิจ วงเงินเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งพลังให้แก่กระบวนการพัฒนา ดังนั้น พร้อมกับการสนับสนุนด้านการเงิน เราต้องหารือเกี่ยวกับกลไกเพื่อแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายเงินทุนภาครัฐและการเพิ่มขีดความสามารถให้สถานประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสินเชื้อนี้ได้อย่างสะดวก”.