ภาพของการประชุม |
ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมผลความร่วมมือในทุกด้านระหว่างทั้งสองประเทศในปี 2022 ความร่วมมือในด้านการเมือง การต่างประเทศ กลาโหมและความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม-สังคม การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนนับวันยิ่งได้รับการผลักดันและพัฒนาอย่างกว้างลึก มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศอยู่ที่กว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้และเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปี 2021 ยอดเงินลงทุนของเวียดนามในลาวของปี 2022 อยู่ที่กว่า 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.5 เมื่อเทียบกับปี 2021
ที่ประชุมหารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับข้อสรุปของกรมการเมืองของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับแผนการร่วมมือระหว่างสองประเทศในปี 2023 สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ในด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา สาธารณสุข วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือด้านการลงทุน การแก้ไขปัญหาอุปสรรค ผลักดันการลงทุนของสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดใหญ่ของทั้งสองประเทศเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมของลาว
ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติแถลงการณ์ร่วม ข้อตกลงระหว่างกรมการเมืองของทั้งสองประเทศและข้อตกลงต่างๆ ผลักดันความสัมพันธ์ด้านการเมือง การต่างประเทศ กลาโหมและความมั่นคง การลงทุนและการค้า เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 -15 เมื่อเทียบกับปี 2022 ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในด้านการฝึกอบรมแหล่งบุคคล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ความร่วมมือในการบริหารแหล่งน้ำและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆขยายความสัมพันธ์ การช่วยเหลือจุนเจือกัน การสนับสนุนและความร่วมมือในองค์กร ฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีลาวได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการเมือง ความไว้วางใจพิเศษ ประสานงานในการค้ำประกันความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ผลักดันความร่วมมือด้านความมั่นคงและกลาโหม ยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน การประกอบธุรกิจ ผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างสองเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมและพลังงาน เป็นต้น
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า หน้าที่หลักคือผลักดันการเชื่อมโยงและช่วยเหลือกันในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองผสานกับการเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก จริงจัง มีประสิทธิภาพ เอื้อให้แก่สถานประกอบการทั้งสองประเทศในการลงทุน การผลิต การประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นของทั้งสองประเทศต้องเป็นฝ่ายรุกในการผลักดันโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาและฝึกอบรม การแก้ปัญหาความยากจน หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารการประชุมครั้งที่ 45 และข้อตกลงความร่วมมือปี 2023 ของคณะกรรมการร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ.