ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้ประเมินว่า    การส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของเวียดนามมีสัญญาณฟื้นตัว ตัวแทนของสมาคมการแปรรูปและส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามเผยว่า ใน 9 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำอยู่ที่ 6.6  พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วแต่สัญญาณที่ดีจากตลาดทั้งภายในและต่างประเทศและแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของตลาดนำเข้ากุ้ง ปลาสวาย ปลาทูนาจากเวียดนามในช่วงปลายปีจะช่วยเพิ่มความสามารถในการฟื้นฟูการส่งออกของหน่วยงานสัตว์น้ำเวียดนาม

บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า นับตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี สถานประกอบการต้องเน้นพัฒนาและลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มมูลค่าการส่งออกและลดราคาขาย นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมการส่งออกและนำเข้าสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เผยว่า การยกเลิกใบเหลือง IUU ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังสหภาพยุโรปและพัฒนาหน่วยงานสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

“ตลาดต่างๆมีมาตรฐานสูงในเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร คุณภาพสินค้าและการระบุแหล่งที่มาของสินค้า การที่อียูให้ใบเหลืองถือเป็นคำเตือน นอกจากอียูแล้ว ตลาดอื่นๆก็อาจปฏิบัติมาตรการในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น พวกเราต้องแก้ไขข้อจำกัดต่างๆเพื่อยกเลิกใบเหลือง นี่เป็นแนวทางที่ยั่งยืนและค้ำประกันการขยายตัวการส่งออกสัตว์น้ำในเวลาที่จะถึง”

ส่วนนาย เจิ่นหงอกกวน ผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์เวียดนามประจำเบลเยียมและอียูเผยว่า ในเดือนตุลาคม  คณะปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและชื่นชมความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการยกเลิกใบเหลือง แต่ก็ยังคงพบปัญหาบางส่วน ดังนั้น อีซีจะติดตามและประเมินต่อไป ถ้าหากในรอบ 6 เดือนต่อจากนี้เวียดนามสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีอีซีก็จะพิจารณาการยกเลิกใบเหลืองก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป.