กระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับชาวเผ่าเขมรในเวียดนามและคัดค้านการใช้ความรุนแรงต่อเรือประมงเวียดนาม

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ชุมชนเผ่าเขมรเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกลุ่มชาติพันธุ์54เผ่าของเวียดนาม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เสมอภาคและปรองดอง มีส่วนร่วมต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวียดนาม
กระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับชาวเผ่าเขมรในเวียดนามและคัดค้านการใช้ความรุนแรงต่อเรือประมงเวียดนาม - ảnh 1 นาง ฝ่ามทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม)

วันที่ 31 สิงหาคม ณ กรุงฮานอย ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเวียดนามต่อการที่องค์กรเขมร Kampuchea Krom ที่แต่งข่าวไร้มูลความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมชนเผ่าเขมรในเวียดนาม นาง ฝ่ามทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนหยัดปัดปฏิเสธข้อมูลที่ผิดพลาดเหล่านี้โดยย้ำว่า “ชุมชนเผ่าเขมรเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกลุ่มชาติพันธุ์54เผ่าของเวียดนาม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เสมอภาคและปรองดอง มีส่วนร่วมต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวียดนาม โดยกลุ่มชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มล้วนได้รับสิทธิความเท่าเทียมกัน รัฐเวียดนามค้ำประกันและเอื้ออำนวยให้แก่การพัฒนาทุกด้านเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจให้แก่ชนกลุ่มน้อยอย่างต่อเนื่อง อนุรักษณ์เอกลักษณ์ของประชาชาติและส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาช้านานและวัฒนธรรมที่ดีงามของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ”

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเวียดนามในเรื่องที่มีเรือประมงลำหนึ่งของเวียดนามได้ถูกโจมตีในขณะที่ทำประมงในเขตทะเลของหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลล์ของเวียดนาม นาง ฝ่ามทูหั่งเผยว่า สำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามกำลังเร่งดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ และย้ำว่า เวียดนามมีหลักฐานอย่างสมบูรณ์ทั้งทางนินินัยและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลล์ตามกฎหมายสากล รวมทั้งอธิปไตย อำนาจอธิปไตยและอำนาจศาลต่อเขตทะเลที่ถูกระบุตามอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 เวียดนามคัดค้านทุกปฏิบัติการที่ใช้ความรุนแรงต่อเรือประมงของเวียดนามที่เคลื่อนไหวตามปกติอย่างชอบธรรมในทะเลซึ่งคุกคามต่อชีวิตและความปลอดภัย ความเสียหายทางทัพย์สินและผลประโยชน์ของชาวประมงที่ขัดกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982”.

Komentar