(VOVworld) –วันที่๕เดือนนี้ คณะกรรมการจัดพิธีฉลองครบรอบ๖๐ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู๗พฤษภาคมระดับชาติได้ฝึกซ้อมกิจกรรมต่างๆในพิธีโดยมีท่านหวูดึกดามรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะกรรมการจัดพิธีฉลองเข้าร่วม เช่น พิธีจุดธูปรำลึกวีรชนที่สละชีพเพื่อชาติที่สุสานทหารที่สละชีพเพื่อชาติเนินเอ๑และพิธีชุมนุม เดินพาเหรดฉลองครบรอบ๖๐ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู ณ สนามกีฬาของจังหวัดและรายการแสดงศิลปะ

ฝึกซ้อมพิธีฉลองครบรอบ๖๐ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู

ส่วนในช่วงเช้า ณ กรุงฮานอย สถาบันสังคมศาสตร์เวียดนามได้จัดการสัมมนานานาชาติในหัวข้อ“ชัยชนะเดียนเบียนฟู – พลังที่เข้มแข็งของเวียดนามและความหมายของยุค”โดยวิเคราะห์และประเมินบทบาทการนำของพรรคและประธานโฮจิมินห์ที่มีต่อยุทธนาการเดียนเบียนฟู ส่วนร่วมของกองกำลังและท้องถิ่นต่างๆในยุทธนาการเดียนเบียนฟู การสนับสนุนและความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ และการประสานในการสู้รบระหว่างประชาชนทั้งสามประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชาซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้บรรดานักวิชาการและนักวิจัยด้านการทหารย้ำถึงความหมายของชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์เดียนเบียนฟูต่อการปฏิวัติเวียดนามและความหมายของยุคแห่งชัยชนะที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ของประเทศใหญ่ๆทั่วโลกและเปิดยุคใหม่ที่มีชัยชนะของขบวนการปลดปล่อยประชาชาติในทั่วโลก ในบทปราศรัยในหัวข้อ“ชัยชนะเดียนเบียนฟู–เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และจุดเปลี่ยนในกระบวนการต่อต้านศัตรูผู้รุกราน ศาสตราจารย์ ดร.วลาดีเมีย โกโลตอฟ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเซ็นต์ ปีเตอร์เบิรกสหพันธรัฐรัสเซียกล่าวว่า“การรบเดียนเบียนฟูเป็นปรากฎการณ์ทางสังคมศาสตร์ เป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับพลังที่เข้มแข็งและสติปัญญาของคนเวียดนาม ชัยชนะเดียนเบียนฟูสร้างจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์และอนาคตของเวียดนาม เป็นหลักหมายทองอันรุ่งโรจน์ในขบวนการปลดปล่อยประชาชาติต่อต้านการกดขี่ขูดรีดในโลก”

ในวันเดียวกัน จังหวัดบิ่งเยืองได้จัดพิธีสรุปผลและมอบรางวัลการประกวดความรู้“๖๐ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู”โดยคณะกรรมการจัดการประกวดได้มอบรางวัลให้แก่ผู้ที่มีบทความยอดเยี่ยมที่สุด๗๑คนและคณะที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด๖คณะ

ก่อนหน้านั้น เมื่อค่ำวันที่๔เดือนนี้ ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดรายการแสดงศิลปะความเชื่อมั่นเวียดนาม –พลังเข้มแข็งเวียดนามในหัวข้อ“เดียนเบียนฟู–หลักหมายทองของยุค”โดยย้อนอดีตช่วงประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของประชาชาติซึ่งจุดสุดยอดคือชัยชนะเดียนเบียนฟู

ที่จังหวัดกว๋างนามได้มีการจัดรายการ“งานวันเดียนเบียนก้องกังวาล”โดยมีนักเรียนเกือบ๕๐๐คนในเมืองตามกี่เข้าร่วม เด็กๆได้ชมภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับชัยชนะเดียนเบียนฟู พลเอกหวอเงวียนยาฟ และพบปะกับบรรดานักรบเดียนเบียนในอดีต และเข้าร่วมการประกวดความรู้เกี่ยวกับชัยชนะเดียนเบียนฟู เยี่ยมเยือนครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบาย และครอบครัวยากจน นายเลกงรี ผู้อำนวยการศูนย์เยาวชนและยุวชนทางกลางเวียดนามกล่าวว่า“สำหรับเยาวชนทุกวันนี้  เมื่อได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเดียนเบียนฟู มีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับเกียรติประวัติต่อต้านศัตรูผู้รุกรานของประชาชาติและของบรรพบุรุษ เยาวชนจะส่งเสริมเกียรติประวัติของบรรพบุรุษและมีส่วนร่วมในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ”

ก่อนหน้านั้น  เมื่อวันที่๔เดือนนี้ ที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง ประเทศจีน ศาสตราจารย์หลูหยวีเซิงหัวหน้าสถาบันสังคมศาสตร์กวางสีและศาสตราจารย์ขวางเชิงอดีตรองหัวหน้าสถาบันสังคมศาสตร์กวางสี ตัวแทนสถานกงสุลเวียดนามประจำเมืองหนานหนิง วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญและนักข่าวจีนเข้าร่วมการสัมมนาครบรอบ๖๐ปีชัยชนะเดียนเบียนฟูจำนวนมาก บทปราศรัยต่างๆที่เสนอในการสัมมนาย้ำว่า ในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส โดยเฉพาะ ยุทธนาการเดียนเบียนฟู ประชาชนเวียดนามและจีนได้ร่วมทำนุบำรุงไมตรีจิตมิตรภาพและเคียงบ่าเคียงไหล่ในการต่อสู้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เป็นการตกผลึกของไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศซึ่งเยาวชนในยุคปัจจุบันควรส่งเสริมต่อไป

พิธีเปิดตัวแสตมป์ชุด60ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู

วันที่5พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชุมและวัฒนธรรมจังหวัดเดียนเบียน ได้มีการเปิดศูนย์สารนิเทศแห่งชาติเพื่ออำนวยความสะดวกในการรายงานข่าวพิธีฉลองที่จะจัดขึ้น ณ เดียนเบียน ในวันเดียวกันกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้ประสานงานกับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเดียนเบียนจัดพิธีเปิดตัวแสตมป์ชุด60ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู โดยมีการออกแบบอย่างทันสมัย สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของอนุสาวรีย์ชัยชนะเดียนเบียนฟูและดอกกาหลง ดอกไม้สัญลักษณ์ของเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือแห่งนี้

ที่นครโฮจิมินห์ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ให้การศึกษาของนครได้จัดการสัมมนาในหัวข้อ “จากชัยชนะเดียนเบียนฟูสู่ยุทธนาการณ์โฮจิมินห์แห่งประวัติศาสตร์-คุณค่าที่ยั่งยืน” โดยบาปราศรัยกว่า70บทที่เสนอในการสัมมนาต่างย้ำถึงความหมายของเหตุการณ์นี้และบทเรียนที่ได้จากชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของกระบวนการต่อสู้ปลดปล่อยประชาชาติ การส่งเสริมพลังมวลชนและการประสานกับพลังแห่งยุตสมัยภายใต้การนำที่ปรีชาสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามโดยประธานโฮจิมินห์เป็นผู้นำ./.