ประธานาธิบดีอิสราเอล  ริวเวน รูวี ริฟลินกล่าวปราศรัยในฟอรั่ม

(VOVworld) – ฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม – อิสราเอล ซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในกรอบการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอิสราเอล  ริวเวน รูวี ริฟลิน ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อเช้าวันที่ 21 มีนาคม โดยมีประธานาธิบดีอิสราเอล ริวเวน รูวี ริฟลิน นายเวืองดิ่งเหวะ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายหวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามและผู้ประกอบการเวียดนามและอิสราเอลประมาณ 300 คนเข้าร่วม

ในการกล่าวปราศรัยในฟอรั่ม นายหวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้ย้ำว่า นับตั้งแต่ปี 2016 คำ “Start-up” ได้ถูกระบุในมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานประกอบการขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลา 5 ปี พร้อมทั้งมีการปฏิบัติตามแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ นี่คือแนวทางความร่วมมือที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเพื่อพัฒนาเป็นประเทศ Start-up ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในปี 2020 “เวียดนามกำลังระดมพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนาการเกษตรและรณรงค์ให้สถานประกอบการลงทุนในด้านการเกษตร Start-up และการลงทุนเป็นสองด้านที่ถือเป็นก้าวกระโดดเพื่อผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจเวียดนามในเวลาข้างหน้า ซึ่งในทั้งสองด้านนี้ เวียดนามต่างเห็นว่า อิสราเอลเป็นตัวอย่างของโลกและเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเวียดนาม”

ส่วนประธานาธิบดีอิสราเอลได้ยืนยันว่า เวียดนามและอิสราเอลมีความคล้ายคลึงกันในด้านต่างๆ ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการและท้องถิ่นต่างๆร่วมมือโดยตรงเพื่อส่งเสริมการค้า การประกอบธุรกิจและการลงทุน การที่สถานประกอบการชั้นนำกว่า 30 แห่งของอิสราเอลเข้าร่วมฟอรั่มนี้ก็เพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ “เวียดนามเป็นเศรษฐกิจเชิงตลาดที่มีอัตราการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอิสราเอลในหลายปีที่ผ่านมานับวันมีความหลากหลายมากขึ้น พวกเรามีความหวังว่า จะมีสถานประกอบการของทั้งสองประเทศร่วมมือกันในโครงการร่วมต่างๆ เรามาที่นี่ก็เพื่อส่งสาส์นที่ชัดเจนว่า อิสราเอลมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับเวียดนามเพื่อผละประโยชน์ร่วมกัน การเปลี่ยนแปลงใหม่และความคิดสร้างสรรค์”

ในขณะเดียวกัน ได้มีการจัดฟอรั่มอุตสาหกรรมกลาโหมเวียดนาม – อิสราเอลโดยมีประธานาธิบดีอิสราเอลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามเข้าร่วม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้สรุปสถานการณ์การพัฒนาอุตสาหกรรมกลาโหมของแต่ละประเทศและประเมินความร่วมมืระหว่างสถานประกอบการในด้านกลาโหมของเวียดนามและอิสราเอลในเวลาที่ผ่านมา.