โบสถ์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1940 บนที่ดินขนาด 12 เฮกตาร์ ห่างจากใจกลางเมืองดาลัดไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 1 กม. และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1944 จากเงินบริจาคของศาสนิกชนในท้องถิ่นโดยนาง Suzanne Humbert ภริยาของนาย Jean Decoux ผู้สำเร็จราชการแห่งอินโดจีนเป็นผู้เปิดการรณรงค์ โบส์ถแห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุโรปกับสถาปัตยกรรมของเขตที่ราบสูงเตยเงวียน มีจุดเด่นคือโครงสร้างหลังคาสามเหลี่ยมขนาดใหญ่บนยอดหลังคามีไม้กางเขน ถัดออกมาจะเป็นซุ้มประตูที่มีรูปทรงคล้ายใบหอก ตรงหน้าจั่วมีช่องรับแสงทรงกลมลวดลายดอกกุหลาบ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของโบส์ถฝรั่งเศสในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 โบสถ์ Domaine de Marie ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือโบสถ์ มายแอง เนื่องจากอาคารตั้งอยู่บนเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ โครงสร้างหลังคามีลักษณะทอดยาวเหมือนหลังคาของบ้านโรงในเขตเตยเงวียน มุงด้วยกระเบื้องสีแดง ส่วนอีกจุดที่น่าสังเกตคือโบส์ถแห่งนี้ไม่มีระฆังเหมือนโบส์ถอื่นๆ จุดเด่นอีกอย่างของโบสถ์แห่งนี้คือรูปปั้นของพระแม่มารีย์ยืนบนลูกโลกออกแบบตามลักษณะสตรีชาวเวียดนาม โดยนาย Janchère สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ สูง 3 เมตร หนัก 1 ตัน ปั้นขึ้นในปี 1943 โดยนาง Suzanne เป็นผู้มอบให้โบส์ถแห่งนี้ โบสถ์ Domaine de Marie ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นสน มีอาคารสวดมนต์และบ้านสงฆ์สองแถวของสมาคมคริสตจักร หนือตื๋อบ๊ากอ๊ายแท้งวิงเซิน ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของเมืองในหมอกได้จากโบส์ถแห่งนี้ จนถึงปัจจุบัน โบสถ์แห่งนี้ก็ยังคงใช้สีชมพูเข้มเท่านั้น ฉากจำลองแสดงถึงวันของพระคริสต์ที่บริเวณข้างโบสถ์ ภูมิทัศน์โดยรอบเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่ใช้ร่มเงาและอากาศที่บริสุทธิ์ โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียงด้านกิจกรรมดูแลเด็กกำพร้าและกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เช่น การดูแลเด็กพิการ การช่วยเหลือเด็กกำพร้าและการดูแลคนยากจน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ได้ตลอดเวลา แต่ช่วงเวลที่สวยที่สุดคือในตอนเช้าตรู่และยามพระอาทิตย์ตก Từ khóa: VOV VOVworld "Check-in" โบสถ์ชมพูที่น่าประทับใจ เมืองดาลัด Komentar Submit Xem thêm