นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เเละ นาย เวทิต โชควัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย |
การเสริมสร้างการเชื่อมโยงในด้านธุรกิจ การค้า และการลงทุนผ่านด้านโลจิสติกส์ถือเป็นกลไกสำคัญในการจัดการต้นทุนทางธุรกิจในบริบทของการแข่งขันและภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป นี่คือข้อสรุปในงานสัมมนา “ส่งเสริมการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เผยว่า
“รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดให้โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคบริการที่สำคัญ ตามแผนปฏิบัติการที่ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ภาคบริการด้านโลจิสติกส์ของเวียดนามตั้งเป้าที่จะบรรลุ 6 เป้าหมายใหญ่ภายในปี 2025 โดยมีเป้าหมายในการสร้างมูลค่าให้กับ GDP อยู่ที่ 5 - 6% ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประสบการณ์สูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาค ดังนั้น ศักยภาพในการเชื่อมโยงภาคบริการโลจิสติกส์ระหว่างธุรกิจของทั้งสองประเทศยังมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกมาก ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านคลังสินค้า โรงงาน ท่าเรือ ที่สามารถรองรับการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย”
ในกรอบการสัมมนา ตัวแทนธุรกิจจากเวียดนามและไทยได้มีกิจกรรมในการสร้างความเชื่อมโยงและแสวงหาความร่วมมือทางธุรกิจ.