เลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องและประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา

การเยือนประเทศฝรั่งเศสและคิวบาของเลขาธิการใหญ่พรรคเหงียนฟู้จ่องไม่เพียงแต่เป็นการกำหนดกรอบ วางแนวทางและสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น หากยังสะท้อนนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามและความตั้งใจที่จะนำความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสองประเทศดังกล่าวให้ย่างเข้าสู่ระยะใหม่แห่งการพัฒนา

การเยือนที่ประสบผลอย่างรอบด้าน มีประสิทธิภาพและเชิงยุทธศาสตร์

ในกรอบการเยือน เลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องได้มีการเจรจาและพบปะหารือกับผู้นำหลายท่านของฝรั่งเศสและคิวบา พร้อมทั้งพบปะสังสรรค์กับประชาชน เยาวชนและสถานประกอบการ นายหว่างบิ่งกวน สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคและหัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางเผยว่า “ฝรั่งเศสให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการเยือนครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องเนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของเวียดนามและประสิทธิภาพจากการขยายความสัมพันธ์ เลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องได้เจรจาและพบปะหารือกับผู้นำฝรั่งเศสทุกคน กำหนดวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์และแนวทางใหญ่ๆ พร้อมทั้งมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคี ในขณะเดียวกัน ผู้นำระดับสูงของคิวบาต่างเข้าร่วมการเจรจา พบปะหารือและให้การต้อนรับเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่อง สิ่งที่น่าประทับใจคือท่าน ราอูล คาสโตร รูซ ได้นั่งเครื่องบินร่วมกับเลขาธิการใหญ่พรรคฯไปที่เมือง Santiago de Cuba เพราะในประวัติศาสตร์นั้น ไม่เคยมีผู้นำของสองชาตินั่งเครื่องบินร่วมกัน”

การลงนามเอกสารร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสและเวียดนามกับคิวบารวม 43 ฉบับได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีในเวลาที่จะถึง โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน สำหรับประเทศฝรั่งเศส สัญญาทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านยูโรที่ได้รับการลงนามระหว่างสถานประกอบการฝรั่งเศสและเวียดนามเน้นในด้านการบิน เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงานและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามเจิ่นต๊วนแอง ซึ่งเดินทางร่วมไปกับคณะของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องเผยว่า            “แน่นอนว่า ฝรั่งเศสจะเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของเวียดนามในเวลาที่จะถึงผ่านกระแสการลงทุนใหญ่ เราไม่เพียงแต่เห็นการปรับปรุงกลไกและกรอบความร่วมมือให้มีความสมบูรณ์ผ่านข้อตกลงและเอกสารร่วมมือในด้านต่างๆนับสิบฉบับเท่านั้น หากยังเห็นถึงการเข้าร่วมอย่างคึกคักของสถานประกอบการผ่านสัญญาทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย”

โดยเฉพาะในการเยือนครั้งนี้ ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศได้สะท้อนความตั้งใจเป็นอย่างสูงเพื่อเสร็จสิ้นการลงนามและอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – สหภาพยุโรปภายในปี 2018 เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนและโอกาสใหม่ในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศและระหว่างเวียดนามกับบรรดาประเทศยุโรป

ท่านเหงียนฟู้จ่องมอบเหรียญอิสริยาภรณ์ดาวทอง ซึ่งเป็นเหรียญอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของเวียดนามให้แก่ผู้นำคิวบา ราอูล คาสโตร รูซ (Photo VNplus)

สำหรับประเทศคิวบา ผลการเยือนครั้งนี้เป็นพื้นฐานที่ส่งผลดีต่อการผลักดันให้ทั้งสองประเทศและสถานประกอบการของทั้งสองฝ่ายพยายามแสวงหากลไกและรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อขยายช่องทางและรูปแบบความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์และสนับสนุนกัน รัฐมนตรีเจิ่นต๊วนแองเผยต่อไปว่า “ผลที่น่ายินดีในการเยือนคิวบาครั้งนี้คือทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเวียดนาม – คิวบาและจะลงนามโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ข้อตกลงฉบับนี้สนับสนุนการขยายตัวทางการค้า การแลกเปลี่ยนสินค้า ดึงดูดการลงทุน ยกระดับการผลิต การเข้าร่วมตลาดโลกและตลาดของอีกฝ่าย นี่คือก้าวพัฒนาที่สำคัญ จากข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ทั้งสองฝ่ายจะให้สิทธิพิเศษระหว่างกันเนื่องจากจุดแข็งและความต้องการของทั้งสองเศรษฐกิจ รวมทั้งลดภาษีศุลกากรลงร้อยละ 90”

ในกรอบการเยือนประเทศคิวบา ความสามัคคีพิเศษระหว่างเวียดนามกับคิวบาได้รับการยืนยันอีกครั้งผ่านกิจกรรมต่างๆของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่อง เช่น การมอบเหรียญอิสริยาภรณ์ดาวทอง ซึ่งเป็นเหรียญอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของเวียดนามให้แก่ผู้นำคิวบา ราอูล คาสโตร รูซ ประกาศยกหนี้ให้แก่รัฐบาลคิวบาและมอบข้าว 5,000 ตันให้แก่ประชาชนคิวบา

ผลักดันความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับระเบียบโลกหลายขั้ว

ควบคู่กับผลความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่างๆ การเยือนฝรั่งเศสและคิวบาครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงียนฟู้จ่องยังผลักดันความเข้าใจร่วมระหว่างผู้นำระดับสูงเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อธำรงสันติภาพและความมั่นคงในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน ผู้นำทั้งสามประเทศยังเห็นพ้องกันผลักดันระเบียบโลกหลายขั้วบนพื้นฐานของแนวคิดพหุภาคีนิยม ย้ำความสำคัญเกี่ยวกับบทบาทของสหประชาชาติ ให้คำมั่นให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งสิทธิการตัดสินใจเองและกลไกการเมืองของแต่ละฝ่าย พร้อมทั้งย้ำว่า การพิพาทระหว่างประเทศต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี ให้ความเคารพกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติ

อาจกล่าวได้ว่า จากผลสำเร็จในการเยือนสองประเทศดังกล่าวของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง อนาคตของความสัมพันธ์เวียดนาม – ฝรั่งเศสและเวียดนาม – คิวบาจะย่างเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่อย่างแน่นอน.