CPTPPช่วยผลักดันการเชื่อมโยงและการผสมผสานด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก

Vân
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ปี 2018 ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือCPTPP ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งช่วยสร้างเขตการค้าเสรีที่มี 11 ประเทศสมาชิกจากทวีปอเมริกา เอเชียและโอเชียเนียและเป็นก้าวเดินที่สำคัญเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสมาชิกฟันฝ่าอุปสรรคจากลัทธิคุ้มครองการค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

 

CPTPPช่วยผลักดันการเชื่อมโยงและการผสมผสานด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก - ảnh 1 CPTPPช่วยผลักดันการเชื่อมโยงและการผสมผสานด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก (VNA)

CPTPP คือข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง 11 ประเทศสมาชิก ประกอบด้วยออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการ ณ ประเทศชิลีเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 เพื่อช่วยลดกำแพงภาษีศุลกากรระหว่างประเทศสมาชิก

ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เม็กซิโก นิวซีแลนด์และสิงคโปร์คือ 6 ประเทศแรกที่อนุมัติข้อตกลง CPTPP เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้ข้อตกลงนี้ ส่วนที่เวียดนาม CPTPP จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมปี 2019

คำประกาศที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ข้อตกลง CPTPP  ได้รับการคาดหวังว่า จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ สร้างงานทำ แก้ปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศสมาชิกผ่านการสร้างหนึ่งในเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากร 500 ล้านคนและจีดีพีประมาณ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย Heraldo Muñoz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลีได้ยืนยันว่า CPTPP จะสนับสนุนการสร้างงานทำ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก

ส่วนนาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ให้ข้อสังเกตว่า CPTPP คือหนึ่งในข้อตกลงรอบด้านและมีจุดมุ่งหมายมากที่สุดของออสเตรเลีย ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการออสเตรเลียพัฒนาและนำรายได้เข้างบประมาณแผ่นดินเฉลี่ยกว่า 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030

ส่วนสำหรับนิวซีแลนด์ CPTPP จะมีส่วนร่วมต่อจีดีพีประมาณ 800 ล้านถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนาย David Parker รัฐมนตรีดูแลการขยายการส่งออกและการค้านิวซีแลนด์ได้ยืนยันว่า ข้อตกลง CPTPP จะเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและประชาชนนิวซีแลนด์ทุกคน

ในขณะเดียวกัน CPTPP ได้ช่วยเพิ่มอัตราจีดีพีกว่าร้อยละ 2 ภายในปี 2030 ของประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไนและเวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ ในการยื่นเอกสารให้สภาแห่งชาติพิจารณาอนุมัติข้อตกลง CPTPP ในการประชุมครั้งที่ 6 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนปี 2018 เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนาม เหงวียนฟู้จ่องก็ได้เผยว่า การเข้าร่วมและให้สัตยาบันข้อตกลง CPTPP แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานในทุกด้านในเชิงลึกของเวียดนามอย่างเข้มแข็ง

ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การที่ข้อตกลง CPTPP มีผลบังคับใช้ ไม่เพียงแต่เอื้อประโยชน์มากมายให้แก่เศรษฐกิจสมาชิกเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงการคัดค้านลัทธิการคุ้มครองการค้าที่กำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและมีส่วนช่วยผลักดันการค้าเสรีจนกว่าการค้าโลกจะกลับมามีความสมดุลเป็นปกติ

ข้อตกลงที่น่าสนใจสำหรับเศรษฐกิจอื่นๆ

ผลประโยชน์ต่างๆของข้อตกลง CPTPP กำลังได้รับความสนใจจากเศรษฐกิจอื่นๆ โดยอินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี ฟิลิปปินส์และไทยได้พิจารณาการเข้าร่วม CPTPP ประเทศโคลอมเบียได้ขอเข้าเป็นสมาชิกของ CPTPP ส่วนอังกฤษก็สนใจหลังกระบวนการถอนตัวจากสหภาพยุโรปเพราะถือเป็นพื้นฐานให้แก่ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างอังกฤษกับประเทศต่างๆ

ในสภาวการณ์ที่ลัทธิการคุ้มครองการค้ากำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น CPTPP ยิ่งควรขยายขอบเขตเพื่อผลักดันการค้าเสรีระดับโลก โดย 11 ประเทศสมาชิก CPTPP จะเริ่มหารือเกี่ยวกับระเบียบการรับสมาชิกใหม่ในเดือนมกราคมนี้ และญี่ปุ่นก็ยังคงส่งเสริมบทบาทเป็นแกนหลักในกระบวนการเจรจาเพื่อรับสมาชิกใหม่

การที่ CPTPP มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมปี 2018 เป็นนิมิตรหมายของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีแห่งแรกในเอเชีย-แปซิฟิกที่มีการเข้าร่วมของทั้งประเทศมหาอำนาจ เศรษฐกิจที่พัฒนาและกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่กระบวนการโลกาภิวัตน์และมีส่วนช่วยผลักดันการผสมผสานด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งเอเชียแปซิฟิก.

คำติชม