กัมพูชามีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลกับเวียดนาม

Văn Đỗ - Hoàng Hải
Chia sẻ
(VOVWORLD) -เมื่อเอ่ยถึงประเทศกัมพูชา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนึกถึงดินแดนแห่งวัดและปราสาทโบราณ โดยเฉพาะ นครวัด รวมถึงแนวชายฝั่งที่มีความยาวเกือบ 500 กม. พร้อมด้วยพื้นที่ชายหาดและหมู่เกาะที่สวยงามหลายแห่ง โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะแก่งได้มีส่วนช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของกัมพูชา ยกระดับขีดความสามารถ พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งตามข้อคิดเห็นของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า การเสริมสร้างความเชื่อมโยงและความหลากหลายสำหรับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวทางทะเลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเวียดนามนั้น กำลังเป็นสิ่งที่ทางการกัมพูชาให้ความสนใจและการส่งเสริมเป็นพิเศษ
กัมพูชามีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลกับเวียดนาม - ảnh 1แนวชายฝั่งประเทศกัมพูชามีความยาวเกือบ 500 กม. รวมพื้นที่ชายหาดและหมู่เกาะที่สวยงามหลายแห่ง

รายงานสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเมื่อปี 2023 ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปกัมพูชาอยู่ที่กว่า 5.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 139.5% เมื่อเทียบกับปี 2022 โดยเวียดนามยังคงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกัมพูชามากเป็นอันดับสอง รองจากไทย ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่กว่า 1 ล้านคน นาย Soy Sinol ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัด Kampot เผยว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินแผนการต่างๆ รวมถึงการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเวียดนามผ่านทางทะเล เช่น การเตรียมเปิดเส้นทางทะเลระหว่างประเทศให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างเกาะ Tonsay ในจังหวัด  Kep และเกาะฟู้ก๊วก ของเวียดนาม หรือการก่อสร้างท่าเรืออเนกประสงค์ในจังหวัด Kampot  เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังกัมพูชาได้มากขึ้น

“ถึงปัจจุบัน รัฐบาลกัมพูชาได้สร้างท่าเรือท่องเที่ยวในจังหวัด Kampot โดยท่าเรือโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทางทะเลระหว่างกัมพูชากับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค โดยเฉพาะกับเวียดนาม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังการเปิดใช้ท่าเรือแห่งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจากเวียดนามมายังกัมพูชาจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง”

กัมพูชามีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลกับเวียดนาม - ảnh 2นาย Soy Sinol ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัด Kampot

ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน กัมพูชาและเวียดนามมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่างในด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิต ในขณะที่ผู้คนของทั้งสองประเทศมีสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดดีงาม ดังนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา จึงมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเวียดนามมักติดในรายชื่อกลุ่มประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปกัมพูชามากเป็นอันดับต้นๆ ส่วนในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางไปเวียดนามมีการเติบโตทุกปี โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางมายังเวียดนามเมื่อปี 2022 สูงกว่า 140,000 คน และเพิ่มขึ้นอีกกว่า 400,000 คน หรือ 285% ในปีถัดไป นาง เหงวียนถิแทงถวี๊ นักท่องเที่ยวเวียดนามจากนครโฮจิมินห์ เผยว่า

กัมพูชามีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลกับเวียดนาม - ảnh 3นาง เหงวียนถิแทงถวี๊ นักท่องเที่ยวเวียดนามจากนครโฮจิมินห์

“ฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากกับอาหารการกินของประเทศกัมพูชา รวมถึงประเพณีวัฒนธรรมด้านความเลื่อมใสก็มีความแตกต่างหลายอย่างเมื่อเทียบกับของเวียดนาม เช่น เจดีย์หลายแห่งมีความแตกต่างจากเจดีย์ของเวียดนาม  ในขณะที่บรรยากาศบริเวณชายหาดกัมพูชาก็ไม่พลุกพล่านเหมือนที่เวียดนาม น้ำทะเลสวยใส และการเดินทางสะดวกสบาย”

สำหรับนาย Jesse McCaul ที่ปรึกษาของคณะกรรมการแห่งชาติกัมพูชาเกี่ยวกับการพัฒนาและการบริหารจัดการแนวชายฝั่ง ได้มีการประเมินเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา โดยแสดงมุมมองเชิงบวกถึงศักยภาพในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างทั้งสองประเทศ เนื่องจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และระเบียบการเดินทางเข้าประเทศที่สะดวก รวมถึงโครงการเชื่อมโยงเรือเฟอร์รี่โดยตรงระหว่างเกาะฟู้ก๊วกของเวียดนามกับพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลหลายจังหวัดของกัมพูชาที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆนี้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 ถึง 30 นาทีเท่านั้น

“มีหลายๆ คนอาจได้ไปเที่ยวทั่วทุกพื้นที่ในเวียดนามและอยากเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรอย่างกัมพูชา ทั้งเกาะแก่ง เขตเมือง แหล่งช้อปปิ้งและรีสอร์ทพักผ่อน รวมถึงอาหารต่างๆ การเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ โดยรอบก็สะดวกสบายมาก ส่วนเดินทางไปกรุงพนมเปญก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น”

ส่วนนาง Lucy และนาย Rafael นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เดินทางทั้งในเวียดนามและกัมพูชา เผยว่า

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินทางมาเที่ยวกัมพูชา ที่นี่เป็นประเทศที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีวัดหลายแห่ง และมีกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งฉันรู้สึกพอใจอย่างมากหลังจากอยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์ ชาวบ้านทุกคนที่นี่ทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนได้อยู่ที่บ้าน ฉันอยากสัมผัสประสบการณ์ในการเดินทางโดยเรือ ถ้าหากมีการเชื่อมต่อทางทะเลระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม”

“เมื่อเราพูดถึงบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เราจะนึกถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่น แน่นอนว่า มีความคล้ายคลึงกัน ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความแตกต่างให้เราค้นคว้า โดยเฉพาะในด้านอาหารการกิน ผู้คน วิถีชีวิต ตลอดจนวิธีการสื่อสารและพฤติกรรมต่างๆ ส่วนการเชื่อมโยงทางทะเล ถ้ามี ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามมากๆ แน่นอน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ เนื่องจากการให้ความสนใจพร้อมการอำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยนโยบายต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม เช่น การยกระดับคุณภาพการให้บริการ ความหลากหลายด้านการคมนาคมขนส่ง การอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าและออกประเทศให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยว แน่นอนว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากเวียดนามไปยังกัมพูชาจะนับวันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ประเทศกัมพูชาสามารถบรรลุเป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากถึง 5.6 ล้านคนในปีนี้ และจะขึ้นเป็น 7 ล้านคนในปี 2025 สูงกว่าตัวเลข 6.6 ล้านคน ในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19./.

คำติชม