นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเข้าร่วมการประชุม

ตามการวางผังจนถึงปี 2030 ซอกจังจะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่พัฒนามากขึ้นในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง  โดยอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาคหรือ GRDP บรรลุเฉลี่ยร้อยละ 8.5 ต่อปี ส่วนเป้าหมายภายในปี 2050 ซอกจังจะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงควบคู่กับการพัฒนาท่าเรือเจิ่นเด่ เป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจที่พัฒนาในระดับปานกลางของประเทศ พัฒนาทางการปกครองดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลในด้านการผลิตและบริการอัจฉริยะด้วยรูปแบบเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เลมิงค้าย รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า จังหวัดซอกจังต้องระดมและใช้แหล่งพลังของภาครัฐ ภาคเอกชนและแหล่งพลังอื่นๆอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ เพื่อเน้นลงทุนและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการวางผัง รองนายกรัฐมนตรีเสนอว่า

 “เพื่อให้การปฏิบัติประสบความสำเร็จ ทางจังหวัดฯต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจอย่างเข้มแข็ง โดยเน้นสร้างก้าวกระโดดในการปฏิรูประเบียบราชการ สร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สร้างบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจที่เปิดกว้าง โปร่งใส มีความเท่าเทียมกันเพื่อดึงดูดนักลงทุน และแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมการวางผังอย่างทันท่วงที.”