จุดประกายความเชื่อมั่นให้แก่เด็กพิการ

Minh Hoa-Lan Anh-Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWorld) –  เด็กพิการเป็นกลุ่มคนที่ได้รับความดูแลเอาใจใส่ด้านสาธารณสุขและได้ไป โรงเรียนน้อยที่สุดและอีกทั้งยังถูกกระทำรุนแรง ล่วงละเมิดและกดขี่ขูดรีด ด้วยเหตุนี้ จำเป็นต้องสร้างที่พึ่งทางจิตใจหรือช่วยเหลือเด็กพิการทางวัตถุเพื่อมีส่วน ร่วมสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้พวกเขาก้าวรุดหน้าไปและปรับตัวเข้ากับชุมชน ซึ่งศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวันที่นครดานังเป็นสถานที่ส่งเสริมความ มุ่งมั่น ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองเพื่อปรับตัวเข้ากับชุมชน

(VOVWorld) –  เด็กพิการเป็นกลุ่มคนที่ได้รับความดูแลเอาใจใส่ด้านสาธารณสุขและได้ไปโรงเรียนน้อยที่สุดและอีกทั้งยังถูกกระทำรุนแรง ล่วงละเมิดและกดขี่ขูดรีด ด้วยเหตุนี้ จำเป็นต้องสร้างที่พึ่งทางจิตใจหรือช่วยเหลือเด็กพิการทางวัตถุเพื่อมีส่วนร่วมสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้พวกเขาก้าวรุดหน้าไปและปรับตัวเข้ากับชุมชนซึ่งศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวันที่นครดานังเป็นสถานที่ส่งเสริมความมุ่งมั่น ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองเพื่อปรับตัวเข้ากับชุมชน

จุดประกายความเชื่อมั่นให้แก่เด็กพิการ - ảnh 1
ศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวัน ที่ตำบลHòa Phước อำเภอHòa Vang นครดานัง(Photo:Dantri)

 เด็กหญิงHồ Thị Láng ที่ตำบลHòa Phước อำเภอHòa Vang นครดานังได้รับสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน ตั้งแต่แรกเกิด ดังนั้น เธอจึงรู้สึกมีปมด้อยเเพราะร่างกายที่พิการอยู่เสมอ แม้อายุจะ๑๖ปีแล้ว แต่Láng กลับยังคงมีร่างกายที่เล็กเหมือนเด็ก๗ขวบ แขนขาลีบและ เดินเหินลำบาก ทุกวัน เธอจะอยู่แต่ในบ้านไม่อยากคบค้าสมาคมกับใครนอกเหนือจากบรรดาสมาชิกในครอบครัว  แต่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่ำต้อยและเหงาใจเหล่านี้ผ่านพ้นไปจนกระทั่งเมื่อเธอได้เข้ามาอยู่ที่ศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวันของสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินซึ่งที่นี่เธอได้ร่วมสนุกสนานกับเพื่อนพิการคนอื่นๆ ได้รับการฝึกอบรมทักษะการดำรงชีวิต เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าและทำดอกไม้เทียมซึ่งสิ่งนี้ได้ช่วยให้เธอมีความมุ่งมั่นเพื่อปรับตัวเข้ากับชุมชนด้วยความมั่นใจในตัวเอง“เมื่อตอนยังเล็กอยู่ หนูมักถูกเพื่อนๆล้อเลียนบ่อยๆ จึงรู้สึกเหงาใจและผิดหวัง หลังจากที่เข้าศูนย์ หนูได้เรียนหนังสือ และเรียนอาชีพ และได้รับความดูแลเอาใจใส่จากครูและเพื่อนๆซึ่งสิ่งนี้ได้จุดประกายความเชื่อมั่นเพื่อให้หนูดำรงชีวิต ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ฉันอยากมีสุขภาพดี อยากศึกษาเล่าเรียนต่อไป และมีงานทำเพื่อสามารถเลี้ยงตัวเองได้ในภายภาคหน้า”   จากการอุปถัมภ์ของกองทุนสำหรับเด็กแห่งสหประชาชาติหรือUNICEF จนถึงปัจจุบันนครดานังได้ก่อสร้างศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวัน๓แห่ง รับเลี้ยงดูเด็กกว่า๑๕๐คนซึ่งส่วนใหญ่คือเด็กเคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินและพิการหนักไม่จนสามารถไปโรงเรียนได้  ความโดดเด่นของศูนย์เหล่านี้คือ ตอนกลางวัน เด็กๆจะได้ศึกษาเล่าเรียนและเล่นกับเพื่อนๆในชั้นเรียน แล้วกลับบ้านในตอนค่ำซึ่งช่วยให้เด็กได้อยู่ในบรรยากาศที่ปลอดภัย เป็นมิตร สามารถศึกษาเล่าเรียน แสดงทักษะความสามารถของตน ปรับตัวเข้ากับสังคม อีกทั้งเด็กก็ได้อยู่ท่ามกลางความรักใคร่และการดูแลเอาใจใส่จากพ่อ แม่ พี่น้องซึ่งตามองค์การUNICEF  และกระทรวงแรงงานทหารทุพพลภาพและสังคมเวียดนาม นี่เป็นรูปแบบดีที่ควรขยายผลทั่วประเทศ นายDoãn Mậu Diệp รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมกล่าวว่า“รูปแบบต่างๆในดานังดีมาก เช่น ศูนย์ช่วยเหลือเด็กเคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินที่รับเลี้ยงเด็กตอนกลางวันเมื่อเข้าศูนย์เหล่านี้ เด็กจะได้เรียนหนังสือและเรียนอาชีพ ทางศูนย์ยังช่วยเด็กผลิตผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ เด็กได้พบปะและทำงานกับเพื่อนๆของตน”

จุดประกายความเชื่อมั่นให้แก่เด็กพิการ - ảnh 2
Nguyễn Phương Anh เข้ารอบชิงชนะเลิศการประกวดVietnams got talant 2012 ร้องเพลงกับเพื่อนมิตร(Photo:Dantri)

องค์การUNICEF ยังช่วยนครดานังจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือการพัฒนา การศึกษา ปรับตัวเข้ากับสังคม ขยายทักษะการค้นหาและรักษาเด็กพิการด้านภาษาและประสาทสัมผัสให้แก่ครูของศูนย์ นางLotta Sylwander ตัวแทนองค์การUNICEF ประจำเวียดนามได้ให้คำมั่นว่า จะเรียกร้องการอุปถัมภ์ต่อไปเพื่อดำเนินโครงการและกิจกรรมดูแลเอาใจใส่เด็กพิการในขอบเขตที่กว้างมากขึ้น“พวกเราจะช่วยเหลือเพื่อให้เวียดนามขยายผลรูปแบบดังกล่าวไม่เพียงแต่ในนครดานังเท่านั้นหากในจังหวัดต่างๆทางภาคกลางและเขตที่ราบลสูงTây Nguyên เช่น จังหวัดGia Laiและ Kon Tum ” จากตัวอย่างที่ดีของนครดานัง ท้องถิ่นต่างๆกำลังเร่งจัดตั้งศูนย์ดูแลเอาใจใส่เด็กพิการกลางวัน เพื่อให้นับวันมีเด็กพิการได้รับความรักใคร่และดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวและสังคมมากยิ่งขึ้น./.

 

 

Feedback