สถานประกอบการต้องกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดในการพัฒนาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล

Thu Trang - Van - VOV
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การพัฒนาตามแนวทางดิจิทัลคือปัจจัยชี้ขาดในการขยายตัวและพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ซึ่งเวียดนามได้จัดอยู่อันดับที่ 46 จากจำนวน 60 ประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเร็วที่สุดและอยู่อันดับที่ 22 ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล แต่เพื่อสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัลนี้ สถานประกอบการเวียดนามต้องเป็นฝ่ายรุกในการเปลี่ยนแปลงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการผลิต การบริหารและต้องเป็นเสาหลักในกระบวนการพัฒนาสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
สถานประกอบการต้องกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดในการพัฒนาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล - ảnh 1สถานประกอบการต้องกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดในการพัฒนาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Photo Internet)

ตามข้อมูลจากธนาคารโลก ในทั่วโลก มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 4.3 พันล้านคน คิดเป็นร้อยละ 57 ของประชากรทั่วโลกมีผู้ใช้มือถือประมาณ 5.1 พันล้านคนและผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 3.2 พันล้านคน นี่ถือเป็นแนวโน้มของยุคสมัยและเป็นฐานข้อมูลเพื่อช่วยให้สถานประกอบการปรับตัวไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งจะเป็นโอกาสประกอบธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นแนวโน้มในการพัฒนาระบบดิจิทัลของสถานประกอบการผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เพราะจากการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง เป็นต้น นั้นจะทำให้กระบวนการพัฒนาเป็นดิจิทัลต้องเกิดขึ้น นาย บุ่ยกวางต๊วน หัวหน้าสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามแสดงความเห็นว่า          “การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลคือแนวโน้มที่ต้องเกิดขึ้นและสอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศเวียดนามปัจจุบัน ซึ่งในขอบเขตมหภาค เวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวจากเดิมที่เน้นในส่วนกว้างที่พึ่งพาแรงงานราคาถูกและทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นการขยายตัวอย่างลงลึกที่เน้นประสิทธิภาพและทักษะความสามารถในการแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงใหม่เชิงสร้างสรรค์และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ส่วนในระดับสถานประกอบการก็ต้องเปลี่ยนแปลงแนวความคิดเพื่อเข้าร่วมกระบวนการนี้”

ตามผลการวิจัยของบริษัท Microsoft  การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้ช่วยเพิ่มผลผลิตของสถานประกอบการ ซึ่งเมื่อปี 2017 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้ช่วยเพิ่มผลผลิตร้อยละ 15 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21 ภายในปี 2020
เวียดนามมีสถานประกอบการเอกชนประมาณ 700,000 แห่ง ซึ่งร้อยละ 98 เป็นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในจำนวนนั้นมีประมาณร้อยละ 50 ที่ตระหนักได้ดีว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเอง ในขณะเดียวกัน มีสถานประกอบการร้อยละ 6.6 มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ส่วนกว่าร้อยละ 34 ยังขาดทักษะความสามารถจึงต้องประยุกต์ใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น สถานประกอบการต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อผลิตและประกอบธุรกิจด้านสำคัญๆ และสร้างบรรยากาศที่เชื่อมโยงและปลอดภัย รวมทั้งประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะที่ทันสมัยต่างๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้งและหุ่นยนต์ นางด่าวมิงห์เฟือง ตัวแทนบริษัทเทคโนโลยีสังกัดกลุ่มบริษัทไปรษณีย์โทรคมนาคมเวียดนามหรือวีเอ็นพีทีเผยว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลคือปัจจัยชี้ขาดที่ช่วยให้การปฏิรูปของบริษัทประสบความสำเร็จ โดยอัตรการขยายตัวในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในระหว่างปี 2014 ถึงปี 2018 บรรลุกว่าร้อยละ 20 “วีเอ็นพีทีเป็นบริษัทเดินหน้าในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เรากำลังให้คำปรึกษาและสนับสนุนสถานประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งก็เห็นว่า บริษัทของเราไม่พบอุปสรรคแต่บริษัทที่เรากำลังให้คำปรึกษาเหล่านั้นกลับประสบอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้และการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์และ Blockchain”

ผลการวิจัยในทั่วโลกปรากฎว่า อายุไขเฉลี่ยของสถานประกอบการที่มีชื่อเสียงของโลก 500 แห่งลดลงจาก 60 ปีเหลือ 15 ปีซึ่งถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่แม้แต่ผู้ประกบอารเหล่านี้ก็อาจล้มละลายได้ ดังนั้นความพยายามของสถานประกอบการบวกกับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพของภาครัฐจึงมีความหมายชี้ขาดต่อการพัฒนาของสถานประกอบการ รองศ.ดร. เจิ่นดิ่งเถียนแสดงความคิดเห็นว่า “ในแง่วิสัยทัศน์ เวียดนามต้องถือยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มุ่งสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลคือแกนหลักในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เพราะปัจจุบันนี้ นี่เป็นเพียงยุทธศาสตร์ในระดับหน่วยงานเท่านั้น โดยเราเพิ่งพัฒนาในระดับสถานประกอบการที่ยังไม่ยกระดับให้เป็นกระบวนการยุทธศาสตร์ ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ก็หวังว่า สถานประกอบการจะมีเสียงพูดที่เข้มแข็งมากขึ้นมีปฏิบัติการที่จริงจังมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว”

ผลการวิจัยของ Google และ Temasek ของสิงคโปร์ปรากฎว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามได้บรรลุ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 และคาดว่าจะบรรลุ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ส่วนผลการวิจัยขององค์กร Data 61 ของออสเตรเลียปรากฎว่า จีดีพีของเวียดนามอาจเพิ่มขึ้นกว่า 1แสน 6หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 20 ปีถ้าหากเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประสบความสำเร็จ แต่เพื่อให้เรื่องนี้กลายเป็นความจริง สถานประกอบการเวียดนามต้องมีการปรับตัว มีความคิดสร้างสรรค์และมีการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มที่.

คำติชม